Panasonic GREEN IMPACT พานาโซนิค

Panasonic เผยแผนทุกโรงงาน ‘ลดคาร์บอนเป็นศูนย์’ ในปี 2030

อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 2565
  • Share :
  • 2,284 Reads   

วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม “Panasonic GREEN IMPACT” ตั้งไทม์ไลน์ ทุกโรงงานปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2030 เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกับสังคมในปี 2050

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2022 กลุ่มพานาโซนิค (Panasonic Group) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาว “Panasonic GREEN IMPACT” เพื่อให้ได้ทั้ง ชีวิตที่ดีขึ้น และ สภาพแวดล้อมระดับโลกที่ยั่งยืน โดยในปี 2030 วางเป้าหมายการปล่อย CO 2 ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจจะแทบเป็นศูนย์ และในปี 2050 พานาโซนิคจะดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่มีส่วนร่วมในการลดผลกระทบจากการการปล่อยมลพิษลงมากกว่า 300 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1% ของการปล่อยมลพิษทั่วโลกในปัจจุบันประมาณ 33 พันล้านตัน

Advertisement

Panasonic GREEN IMPACT วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมในระยะยาวมีไทม์ไลน์ ดังนี้

ปี 2024  ดำเนินแผนภายใต้ชื่อ “GREEN IMPACT PLAN 2024” ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินธุรกิจของพานาโซนิค 16.34 ล้านตัน ซึ่งจะพัฒนาโรงงานรวม 37 แห่งทั่วโลกให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (ณ ปี 2020 มีโรงงานที่ปล่อยปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์รวม 7 โรงงาน) นอกจากนี้ ยังมีแผนรีไซเคิลของเสียจากโรงงาน 99% ใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้รวม 90,000 ตัน และเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจาก 160 GWh ในปี 2020 เป็น 800 GWh ซึ่งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ อีก 38.3 ล้านตัน

ปี 2030  ตั้งเป้าหมาย GREEN IMPACT ให้การดำเนินธุรกิจของพานาโซนิคลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 31.45 ล้านตัน ซึ่งโรงงานทุกแห่งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบจากการปล่อย CO2 เช่น เครื่องปรับอากาศที่ประหยัดไฟยิ่งขึ้น, เซลล์พลังงานเชื้อเพลิง, และอื่น ๆ  เพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าจาก 800 GWh เป็น 2,300 GWh หรือเทียบเท่าการเพิ่มกำลังผลิตเฉลี่ยปีละ 31% พร้อมพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีต้นทุนต่ำลง ซึ่งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ อีก 93 ล้านตัน

 

#Panasonic #CarbonNeutrality #ความเป็นกลางทางคาร์บอน #สิ่งแวดล้อม #อุตสาหกรรม #Mreport #onlinecontent #ข่าวอุตสาหกรรม

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH