รำลึก ‘ชินโซ อาเบะ’ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น

ไว้อาลัย ‘ชินโซ อาเบะ’ ผู้ล่วงลับ อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยูในตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น

อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 2565

ตัวแทนจากภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมได้ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของนาย ‘ชินโซ อาเบะ’ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ซึ่งอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำแห่งการฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 67 ปี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2022 จากเหตุถูกลอบยิง

นายชินโซ อาเบะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกในเดือนกันยายน 2006 ด้วยวัยเพียง 52 ปี จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดของญี่ปุนในยุคหลังสงครามโลก และได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2014 นำพาญี่ปุ่นให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด และฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินที่กล้าหาญ นโยบายการคลังที่คล่องตัว และสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน ผ่านนโยบาย “ลูกศร 3 ดอก” และ “อะเบะโนมิกส์” (Abenomics) รวมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 3,188 วัน และเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

นายอาเบะทำงานเป็นเลขานุการให้แก่บิดาของเขา นายชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ก่อนลงเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ปี 1993 โดยได้รับเลือกเป็นผู้แทนเขต 4 จังหวัดยามากุจิต่อเนื่อง 10 สมัย อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในฐานะเลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย และหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกด้วย

ในสมัยที่ 2 ของรัฐบาลอาเบะ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำการผลักดันอะเบะโนมิกส์ อีกทั้งมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในวงกว้าง และนโยบายการคลังเชิงรุก เพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานของบริษัท เพิ่มอัตราการจ้างงาน และเพิ่มราคาหุ้นให้มีมูลค่ามากขึ้น

นโยบายอะเบะโนมิกส์ ใช้เวลาทั้งสิ้นรวม 71 เดือน และเป็นนโยบายทางเศรษฐกิจที่มีระยะเวลายาวนานเป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลก นอกจากนี้ นายอาเบะยังมีส่วนร่วมในการเจรจาต่อรองทางเศรษฐกิจอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น Trans-Pacific Partnership (TPP), Economic Partnership Agreement (EPA) ระหว่างญี่ปุ่นกับสหภาพยุโรป, และอื่น ๆ

ในด้านการต่างประเทศนั้น นายอาเบะมีมุมมองการทูตที่เปิดกว้าง โดยทุ่มเทให้กับการกระชับความสัมพันธ์และการเปิดเจรจากับประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 176 แห่ง เพื่อวางรากฐานในการเสริมสร้างความมั่นคงของญี่ปุ่นด้วยการสร้างพันธมิตรญี่ปุ่น - สหรัฐฯ และเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศ G7

ร่วมไว้อาลัย ‘ชินโซ อาเบะ’

“การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง” โดยนาย Masakazu Tokura ประธานสหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Japan Business Federation)

อะเบะโนมิกส์ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง ส่วนในด้านการทูตนั้น “diplomacy that takes a panoramic perspective of the world map” ทำให้ญี่ปุ่นมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นต่อประชาคมโลก อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นและเป็นผู้นำทางการเมืองระดับโลกอีกด้วย

“นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่” โดยนาย Akio Mimura ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น

นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ที่ทุ่มเทเพื่อชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งผมคาดหวังว่าจะได้เห็นบทบาทของเขาในช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่เขาต้องจากไปเช่นนี้

“พลังดึงดูดผู้คนเข้ามามีส่วนร่วม” นาย Kengo Sakurada เลขาธิการ Japan Association of Corporate Executives

เป็นผู้นำที่น่าดึงดูด มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ ตัดสินใจเด็ดขาดในนโยบายเศรษฐกิจ การทูต และความมั่นคง มีพลังในการดึงผู้คนจำนวนมากเข้ามามีส่วนร่วมผ่านอะเบะโนมิกส์และนโยบายอื่น ๆ และเป็นเรื่องน่าเศร้าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถึงแก่อสัญกรรมจากการใช้ความรุนแรงอย่างอุกอาจเช่นนี้”

“ฝากรอยเท้าไว้ในด้านการทูต” นาย Akio Toyoda ประธานสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association)

ผู้นำที่เข้มแข็งจากรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญที่มีเสถียรภาพยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ ฝากรอยเท้าไว้ในด้านการทูตและความมั่นคง และยังเป็นผู้นำพาให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวจาก Lehman Shock และแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮกุ

“ความสูญเสียของชาติ” นาย Fujio Mitarai ประธานและ CEO บริษัท Canon

ผู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เสียหายได้สำเร็จ นำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการจ้างงาน การถึงแก่อสัญกรรมจากลูกกระสุนปืนระหว่างที่ความทะเยอทะยานของเขายังไม่สิ้นสุดเป็นเรื่องน่าเศร้า และเป็นความสูญเสียของชาติอย่างใหญ่หลวงจนไม่อาจทำอะไรได้นอกจากโกรธ

ที่มา: Nikkan Kogyo Shimbun