Ford ลั่น อีก 2 ปี ขอขึ้นเบอร์ 2 รถยนต์ไฟฟ้า

อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 2564

หลัง Ford ให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนมาขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในปี 2040 ตามร่างข้อตกลงของสหประชาชาติ และล่าสุดนี้ ฟอร์ดได้ประกาศกร้าวตั้งเป้าหมายขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 2 ในอีก 2 ปีข้างหน้า

Advertisement

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2021 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Ford ตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของโลก ภายในเวลา 2 ปีข้างหน้า ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปีละ 600,000 คัน

Lisa Drake COO บริษัท Ford North America เปิดเผยว่า จากยอดสั่งจองรถกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning ของบริษัทที่ล่าสุดอยู่ที่ราว 200,000 คัน ทำให้ฟอร์ดมั่นใจที่จะตั้งเป้าหมายเช่นนี้

รถยนต์ไฟฟ้า ฟอร์ด

Photo: Ford Motor Company

ฟอร์ด เผยแผนพัฒนาธุรกิจบนแนวทาง Vertical Integration เน้นผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองมากขึ้นแทนการจ้างผลิต ซึ่งเป็นการนำแนวคิดของเฮนรี ฟอร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัท กลับมาใช้ใหม่

การพัฒนาธุรกิจในแบบ Vertical Integration หรือการเป็นเจ้าของธุรกิจในแนวดิ่งตั้งแต่ต้นนำถึงปลายน้ำเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนักในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่เชื่อมั่นว่าแนวโน้มนี้จะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในยุคของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาถึง

โดยฟอร์ดจะใช้โรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์สันดาปที่มีอยู่เดิม ซึ่งเคยใช้ผลิตชิ้นส่วนในระบบขับเคลื่อน และอิเล็กทรอนิกส์กำลัง (Power Electronics) มาผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า

ปัจจุบันฟอร์ดอยู่ระหว่างการร่วมมือกับผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกถึง 5 ราย คือ SK On, LG Energy Solution, CATL, BYD, และ Panasonic เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ และคาดว่าจะมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่ 240 GWh ภายในปี 2030

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชนิดต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนการผลิต เช่น cobalt-free lithium iron phosphate, และ cell-to-pack structural batteries โดยฟอร์ดทั้งเป้าลดราคาแบตเตอรี่ให้เหลือ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 GWh ภายในทศวรรษนี้

นอกจากนี้ ฟอร์ดยังอยู่ระหว่างการร่วมมือกับ BMW และบริษัทสตาร์ทอัพ Solid Power เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Solid State อีกด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะออกสู่ตลาดได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้เช่นเดียวกัน