วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ขนส่งสินค้าทางเครื่องบิน

วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน กระทบค่าขนส่งสินค้าทางเครื่องบิน

อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 2565

วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบซัพพลายเชนโลจิสติกส์แล้ว จากการปิดน่านฟ้าทำให้ค่าขนส่งสินค้าทางเครื่องบินระหว่างเอเชียและยุโรปปรับขึ้นราคา

อะลูมิเนียมแพงสุดรอบ 14 ปี เซ่นพิษรัสเซีย-ยูเครน

Advertisement

วันที่ 1 มีนาคม 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ได้เข้ามากระทบซัพพลายเชนโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวดีจากโควิด โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างยุโรปและเอเชียที่ได้รับผลกระทบหนัก

ประเทศที่ได้รับผลกระทบที่สุด คือประเทศทางตอนเหนือของเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ซึ่งโดยทั่วไปจะบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียไปยังยุโรป

วิกฤตครั้งนี้นำมาซึ่งการปิดน่านฟ้ายูเครน ส่งผลให้การขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างยุโรปและเอเชียเกิดความล่าช้า ซึ่ง นาย Frederic Horst กรรมการผู้จัดการ บริษัท Cargo Facts Consulting แสดงความเห็นว่า 20% ของขนส่งทางเครื่องบินได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า 1 ใน 4 ของสินค้าที่จัดส่งทางอากาศระหว่างยุโรปและเอเชียอาจจำเป็นต้องหาวิธีการจัดส่งสินค้าวิธีอื่น ๆ ทดแทน

ส่วนสายการบินบางสาย เช่น Lufthansa, Air France KLM, Finnair, และ Virgin Atlantic ก็ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินการขนส่งสินค้าระหว่างยุโรปและเอเชียแล้ว

นาย Stefan Maichl นักวิเคราะห์จาก Landesbank Baden-Wuerttemberg แสดงความเห็นว่า การปิดน่านฟ้ายูเครนทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างยุโรปและเอเชียแพงขึ้น เนื่องจากเครื่องบินต้องบินอ้อมเส้นทางเดิม ซึ่งไม่เพียงแต่ระยะทางเท่านั้น เครื่องบินยังจำเป็นต้องบรรทุกเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้บรรทุกสินค้าได้น้อยลงกว่าเดิม

ในทางกลับกัน ยังมีบางสายการบินที่ยังบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียอยู่ เช่น Korean Air Lines และ ANA

นอกจากนี้ การแบนสายการบินรัสเซียอย่าง AirBridgeCargo Airlines อาจทำให้ราคาค่าขนส่งสินค้าทางอากาศที่พุ่งสูงอยู่แล้วแพงขึ้นไปอีก

ส่วนสายการบินขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและอเมริกา รวมถึงภูมิภาคอื่น ๆ นั้นจะไมได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากไม่ได้มีเส้นทางการบินผ่านรัสเซียและยูเครน