ฮุนได เปิดตัวแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า “E-GMP” ตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านคันในปี 2025

ฮุนได เปิดตัวแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า “E-GMP” ตั้งเป้ายอดขาย 1 ล้านคันในปี 2025

อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 2563
  • Share :

ฮุนได เปิดตัว แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า E-GMP เตรียมใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า 23 รุ่น พร้อมตั้งเป้า 1 ล้านคันภายในปี 2025 ซึ่งจะเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขายยานยนต์ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2020 บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป (Hyundai Motor Group) เปิดตัวแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า “Electric-Global Modular Platform (E-GMP)” ภายในงาน E-GMP Digital Discovery ซึ่งจะถูกใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันของรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) ของฮุนได 23 รุ่น

E-GMP ถูกออกแบบขึ้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่โดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นสูง เพิ่มระยะทางการขับขี่ ให้ความปลอดภัย และมีพื้นที่ภายในมากขึ้น ซึ่งแตกต่างกับแพลตฟอร์มรุ่นก่อนหน้าที่ออกแบบเพื่อใช้กับเครื่องยนต์สันดาป 

Albert Biermann ประธานและหัวหน้าแผนก R&D กล่าวแสดงความเห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในยานยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งแพลตฟอร์ม E-GMP ที่เปิดตัวครั้งนี้จะทำให้ฮุนไดมีรถยนต์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้ด้วย ทำให้บริษัทฯ สามารถตอบรับความต้องการของตลาดกลุ่มใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี

Fayez Abdul Rahman รองประธานอาวุโสศูนย์พัฒนาสถาปัตยกรรมยานยนต์ฮุนได แสดงความเห็นว่า แพลตฟอร์มนี้เป็นผลผลิตจากการวิจัยและพัฒนามานานหลายปี และได้รวมนวัตกรรมทั้งหมดของบริษัทฯ เข้าด้วยกัน เพื่อยกระดับรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ของฮุนไดให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

โครงสร้างของ E-GMP ถูกพัฒนาขึ้นเป็นระบบโมดูล และใช้ชิ้นส่วนร่วมกันเพิ่มขึ้น จึงลดความซับซ้อนของโครงสร้าง รองรับการดัดแปลงและพัฒนาไปใช้ในยานยนต์หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นซีดาน, SUV, และ CUV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และสามารถเร่งความเร็วให้ขึ้นไปอยู่ที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 3.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดที่ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

E-GMP ยังถูกออกแบบให้มีความมั่นคงมากขึ้นด้วยการกระจายน้ำหนักหน้าหลังอย่างสมดุล และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าระบบโมดูลขนาดเล็ก ที่ใช้เซมิคอนดักเตอร์ซิลิคอนคาร์ไบด์ (Silicon Carbide: SiC) ทำให้วิ่งได้ไกลกว่ามอเตอร์ทั่วไปราว 5% ด้วยแบตเตอรี่ที่ความจุเท่ากัน และ Five-Link Rear Suspension System ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้ในยานยนต์ขนาดใหญ่ รวมถึงระบบเพลา Integrated Drive Axle (IDA) ที่รวมลูกปืนดุมล้อ (Wheel Bearings) และเพลาขับไว้ด้วยกัน เพื่อให้สามารถส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปที่ล้อได้โดยตรง ซึ่งฮุนไดเป็นรายแรกของโลกที่นำระบบเพลานี้เข้าสู่การผลิตแบบจำนวนมาก

ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น E-GMP วางตำแหน่งติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ที่กลางคันรถ ซึ่งพัฒนาขึ้นเป็นระบบโมดูลเพื่อให้สามารถเพิ่มจำนวนแบตเตอรี่ได้ตามความต้องการของยานยนต์แต่ละรุ่น พร้อมโครงสร้างระบบหล่อเย็นที่แยกออกมาต่างหากเพื่อให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลง มีความจุมากกว่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป 10% วิ่งได้ไกล 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) และชาร์จได้ถึง 80% ภายใน 18 นาทีด้วยการชาร์จแบบไฮสปีด

ส่วนโครงสร้างติดตั้งแบตเตอรี่ผลิตจากเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงด้วยวิธีการขึ้นรูปร้อน เพื่อให้การดูดซับแรงกระแทกมีประสิทธิภาพ เพิ่มความทนทาน และความปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้ของยานยนต์ให้สูงขึ้น รวมไปถึงการเสริมความแข็งแรงของคานรับแรงกระแทกที่ช่วงหน้าของตัวรถ ช่วยลดความแรงเมื่อเกิดการกระแทกให้กับชุดอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ไปจนถึงเสา A ที่ช่วยป้องกันการยุบของตัวรถ

นอกจากนี้ ตัวแพลตฟอร์มยังมีฐานล้อยาว ประกอบกับระยะล้อที่อยู่ใกล้กันชน อุปกรณ์การขับขี่ที่มีขนาดกะทัดรัด และการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้พื้น ช่วยให้พื้นที่ภายในรถกว้างขวางขึ้น รองรับการจัดวางเบาะนั่งได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

โดย E-GMP จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจด้านรถยนต์ไฟฟ้าของฮุนได ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ทั้งหมด 23 รุ่น และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่มากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลกภายในปี 2025 ซึ่งทางบริษัทฯ ได้เปิดตัวแบรนด์ “IONIQ” เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา และมีกำหนดเปิดตัวยานยนต์อีก 3 รุ่น คือ IONIQ 5, 6, และ 7 ภายในปี 2024

นอกจากนี้ Kia Motors ซึ่งเป็นบริษัทในเครือยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าและประกาศแผนการที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นเป็น 20% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2025 ไปจนถึงยานยนต์รุ่นใหม่อีก 7 รุ่นภายในปี 2027 อีกด้วย