จุดประเด็น “เลิกขายรถเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2040” ใครตอบรับบ้าง
สหประชาชาติเสนอร่างเลิกขายรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2040 เพื่อทำให้เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 เป็นจริงได้ มาดูกันไว้ประเทศใดตอบรับแล้วบ้าง และค่ายรถมีความเห็นอย่างไร
Advertisement | |
ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 หรือ COP26 ที่เพิ่งจบไปได้สร้างหนึ่งประเด็นร้อน นั่นก็คือ ร่างข้อตกลงที่เสนอโดยสหประชาชาติว่าด้วยการยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในตลาดยานยนต์ขนาดใหญ่ภายในปี 2035 และยุติการขายทั่วโลกภายในปี 2040
จากการคำนวณขององค์กรพลังงานระหว่างประเทศที่พบว่า เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อโลกยุติการขายเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035
เดิมทีการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก 3.4 หมื่นล้านตันในปัจจุบันให้เหลือ 0 ภายในปี 2050 เพื่อควบคุมให้อุณหภูมิโลกไม่เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จีนและสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสองชาติที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 40% ของโลก ได้ประกาศยกระดับความร่วมมือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อตอบสนองต่อแนวทางของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความแปลกใจให้สื่อหลายสำนักเป็นอย่างมาก
โดยสหรัฐฯ มีแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการผลิตกระแสไฟฟ้าให้เป็นศูนย์ในปี 2035 ส่วนจีนมีแผนลดการใช้ถ่านหินต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 15 ปี อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศยังไม่ได้ลงนามให้คำมั่นสัญญาว่า ยุติการขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในปี 2040
ส่วนประเทศที่ลงนามเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ (ข้อมูลวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021) ก็มีหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ไอร์แลนด์, นอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ก, กัมพูชา, และอื่น ๆ รวมแล้วมากกว่า 20 ประเทศ
และแน่นอนว่า ร่างข้อตกลงนี้ได้กลายเป็นที่กล่าวถึงในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ทั่วไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ค่ายรถที่ให้คำมั่นว่าจะยุติการขายเครื่องยนต์สันดาป และเปลี่ยนมาขายรถอีวี 100% ภายในปี 2040 (ข้อมูลวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021) มีดังนี้
- BYD
- Ford Motor
- General Motors
- Volvo
- Jaguar Land Rover
- Mercedes-Benz
โดย Volkswagen แสดงความเห็นว่า การปรับตัวของค่ายรถเพื่อให้เข้าสู่ยุคความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นเรื่องจำเป็น และเป็นกุญแจสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้จริง และความตกลงปารีสไม่สามารถต่อรองได้ อย่างไรก็ตาม แต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกัน ทั้งความเร็วในการพัฒนา และข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้กระบวนการการก้าวสู่ยุคความเป็นกลางทางคาร์บอนย่อมต่างกันออกไป
จากรายชื่อด้านบนจะเห็นว่ายังไม่มีค่ายรถญี่ปุ่นให้คำมั่นต่อข้อตกลงนี้ โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ญี่ปุ่น (Japan Automobile Manufacturers Association) แสดงความเห็นว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซด้วยเทคโนโลยีรถไฮบริดมากกว่า และโลกควรให้ความสำคัญกับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากทุกภาคส่วน ไม่ใช่ตั้งแง่กับเครื่องยนต์สันดาปเพียงอย่างเดียว
- ยุค Electrification กับการดิ้นรนของภาคอุตสาหกรรม
- บทวิเคราะห์ แผนกลยุทธ์ TOYOTA รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- ฮอนด้าปักธงปี 2030 เลิกขายรถเครื่องยนต์สันดาปในจีน
#รถยนต์ไฟฟ้า #EV #Electric Vehicle #Carbon Neutrality #2050 Carbon Neutral #ความเป็นกลางทางคาร์บอน #ลดคาร์บอน #ลดคาร์บอนไดออกไซด์ #ลดคาร์บอน ลดโลกร้อน #นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม โรงงาน #มาตรการลดโลกร้อน #รถยนต์ไฟฟ้า #อุตสาหกรรมยานยนต์ #เอ็ม รีพอร์ต #M Report #mreportth #Mreport #วงในอุตสาหกรรม #ข่าวอุตสาหกรรม
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- ส่งออกไทย 2564 เดือน มิ.ย. ขยายตัว 43% สูงสุดรอบ 11 ปี อีกครั้ง
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
- กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
- สรุปยอดขายรถยนต์ 2564 ครึ่งปีแรก
- วิกฤตซัพพลายเชนโลก: ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อธุรกิจ
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH