อินโด-เทสล่า ซื้อนิกเกิล 5 พันล้านเหรียญ ลงทุนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

‘อินโด’ ปิดดีล ‘เทสล่า’ สั่งซื้อนิกเกิล 5 พันล้านเหรียญ ผลิตแบตเตอรี่รถอีวี

อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 2565
  • Share :

‘อินโดนีเซีย’ เผย Tesla เซ็นสัญญาสั่งซื้อนิกเกิล 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2022 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน นายลูฮัต ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการประสานงานการเดินเรือและการลงทุน เปิดเผยกับ CNBC Indonesia ว่า เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตแบตเตอรี่จากบริษัทแปรรูปนิกเกิลในอินโดนีเซีย

โดยเปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียมีการหารือกับเทสล่าอย่างต่อเนื่อง และเทสล่าได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากอินโดนีเซียแล้ว 2 รายการ และสำหรับครั้งนี้เทสล่าได้ลงนามในสัญญาเป็นเวลา 5 ปีกับบริษัทแปรรูปนิกเกิลที่นิคมอุตสาหกรรมโมราวาลีบนเกาะสุลาเวสีสำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในยานยนต์ของเทสล่า

Advertisement

ที่ผ่านมา อินโดนีเซียพยายามดึงเทสล่าเข้ามาลงทุน และกระตุ้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 เว็บไซต์รัฐบาลอินโดนีเซียรายงานว่า นายโจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้พูดคุยกับนายอีลอน มัสก์ CEO บริษัทเทสล่า ถึงความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในอุตสาหกรรมนิกเกิล และอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

ประเทศอินโดนีเซียมีแหล่งแร่นิกเกิลจำนวนมาก ปัจจุบันอินโดนีเซียได้ระงับการส่งออกแร่นิกเกิลเพื่อให้แน่ใจว่ามีอุปทานเพียงพอสำหรับนักลงทุน และกำลังมองหาการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในประเทศ ซึ่งนโยบายนี้ก็ประสบความสำเร็จในการดึงดูดการลงทุนจากยักษ์ใหญ่ด้านเหล็กกล้าของจีนและบริษัทเกาหลีใต้ เช่น LG และ Hyundai

ในเดือนมิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า LG Energy Solution ผู้ผลิตแบตเตอรี่ของเกาหลีได้เริ่มสร้างโรงงานแปรรูปนิกเกิลสองแห่งในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 9.8 พันล้านดอลลาร์เพื่อผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

จนถึงขณะนี้ การลงทุนนิกเกิลส่วนใหญ่ในอินโดนีเซียมุ่งไปที่การผลิตโลหะดิบ เช่น เหล็กพิกนิกเกิลและเฟอโรนิเคล 

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH