‘นิกเกิลล้นตลาด’ จับตาอินโดฯ ผู้ขุดนิกเกิลอันดับหนึ่ง

‘นิกเกิลล้นตลาด’ จับตาอินโดฯ ผู้ขุดนิกเกิลอันดับหนึ่ง

อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 2566
  • Share :
  • 1,433 Reads   

อินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีปริมาณสำรองนิกเกิลมากที่สุดในโลก ซึ่งในปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียผลิตนิกเกิลเพิ่มขึ้นถึง 48% สวนทางกับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นเพียง 6.3% และคาดว่าความต้องการนิกเกิลในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเพียง 6.1% เท่านั้น สถานการณ์นี้ทำให้นิกเกิลล้นตลาด 239,000 ตัน

วันที่ 28 เมษายน 2023 รอยเตอร์รายงาน ตลาดนิกเกิลกำลังประสบปัญหาจากการผลิตนิกเกิลที่พุ่งสูงของอินโดนีเซียจนเกินดุลกับความต้องการนิกเกิลทั่วโลก

Advertisement

นิกเกิล คือ แร่ชนิดหนึ่ง มีความแข็งแรง เหนียว และอ่อนตัว ทนต่อการกัดกร่อน และนำไฟฟ้าได้ดี ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม ไปจนถึงการใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเหล็กสเตนเลส อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

International Nickel Study Group (INSG) คาดการณ์ว่า อุปทานนิกเกิลจะเกินดุลมากถึง 239,000 ตันในปี 2023 ซึ่งเป็นการเกินดุลครั้งใหญ่ที่สุดอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ โดยในปีที่ผ่านมาอุปทานนิกเกิลเกินดุลอยู่ที่ 105,000 ตัน และได้ประมาณการความต้องการนิกเกิลทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเติบโต 6.3% ซึ่งปีนี้จะเติบโตในอัตราไล่เลี่ยกันที่ 6.1% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ยังไม่เพียงพอต่อการแบกรับปริมาณการผลิตนิกเกิลที่พุ่งสูงของอินโดนีเซีย

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ World Stainless Association เผยว่า ในปีที่ผ่านมาการผลิตเหล็กสเตนเลสซึ่งเป็นเซกเตอร์ที่ใช้นิกเกิลมากที่สุดของโลกได้ลดลงถึง 5.2% ขณะที่จีนซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กสเตนเลสรายใหญ่เองก็มีการผลิตลดลง 2% เช่นกัน

โดยการผลิตเหล็กสเตนเลสในจีนได้ฟื้นตัวขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 หลังสิ้นสุดมาตรการ zero-Covid อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐฯ ทำให้การผลิตเหล็กสเตนเลสลดลง และ INSG คาดการณ์ว่า การผลิตสเตนเลสจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในปีนี้

อย่างไรก็ตาม เหล็กสเตนเลสไม่ใช่สิ่งเดียวที่ต้องการนิกเกิล แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเองก็เช่นกัน ซึ่งแม้ว่าความต้องการในจีนจะลดลงจากการยกเลิกมาตรการเงินอุดหนุนและการเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่รูปแบบอื่นที่ไม่ใช้นิกเกิล

แต่ความเร็วในการเติบโตของอีวีทั่วโลกทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะทำให้ความต้องการนิกเกิลเพิ่มขึ้นต่อไป

สำนักวิจัย Adamas Intelligence รายงานว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นิกเกิลถูกใช้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 17,137 ตันทั่วโลก เพิ่มขึ้น 47% จากเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ความต้องการนิกเกิลที่หดตัวในปีที่แล้วไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้นิกเกิลล้นตลาด เนื่องจากเหมืองนิกเกิลในอินโดนีเซียมีการผลิตนิกเกิลมากถึง 1.58 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2021 อีกทั้งช่วยสองเดือนแรกของปี 2023 นี้ ยังผลิตเพิ่มขึ้นมากถึง 44% ซึ่งเป็นผลจากการแบนการส่งออกนิกเกิลดิบมาตั้งแต่ปี 2020 และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนแปรรูปและผลิตนิกเกิล ทำให้เหมืองต่าง ๆ หันไปขุดนิกเกิลมากขึ้น

โดยนิกเกิลที่ถูกผลิตเพิ่มขึ้นนี้ นิกเกิลดิบบางส่วนจะถูกนำไปใช้ในการผลิตสเตนเลส แต่แลกมาด้วยความต้องการนิกเกิลจีนที่จะลดลง อย่างไรก็ตาม การเพิ่มกำลังการผลิตนี้มีเป้าหมายที่เซกเตอร์แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผู้ผลิตกำลังทดลองเทคโนโลยีใหม่เพื่อแปรรูปนิกเกิลชนิดที่เกิดในศิลาแลง (Lateritic nickel) ของอินโดนีเซียซึ่งมีคุณภาพต่ำให้สามารถใช้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้

INSG แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมา อุปทานนิกเกิลที่เกินดุลมักมาจากนิกเกิล class I ที่ซื้อขายในตลาดโลหะลอนดอน (LME) อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 นี้ การผลิตที่เกินความต้องการมาจากนิกเกิล class II

การผลิตนิกเกิลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้เอง ที่ทำให้ราคานิกเกิลในตลาด LME และนิกเกิลนอกตลาดแลกเปลี่ยนมีช่องว่างมากขึ้น ส่งผลให้ราคานิกเกิลลดลงครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2022

สำหรับปี 2023 ปริมาณนิกเกิลคงเหลือในตลาด LME (LME Stock) อยู่ที่ 40,032 ตัน ลดลงถึง 28% และเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2007 ในขณะที่การนำเข้านิกเกิลบริสุทธิ์ของจีนถูกแทนที่ด้วยนิกเกิลระดับกลางที่มุ่งไปที่เซกเตอร์รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้นิกเกิลคงเหลือในตลาดเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 1,496 ตันเท่านั้น

ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว หากอินโดนีเซียสามารถลดช่องว่างคุณภาพของนิกเกิล class I และ class II ลงได้ ราคาของนิกเกิลก็จะมีช่องว่างลดลง อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้น และ INSG คาดการณ์ว่า ราคาของนิกเกิลจะลดลงต่อไป

 

#อินโดนีเซีย #นิกเกิล #แบตเตอรี่อีวี #Mreport #mreportth #ข่าวอุตสาหกรรม #onlinecontent

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH