NAFTA และ 5 ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบ

อัปเดตล่าสุด 20 ก.ย. 2561
  • Share :

อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วน แสดงความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาวัสดุ อันเกิดจากการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ของสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก ชิ้นส่วนยานยนต์ส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากยกเลิกการเปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราศุลกากร (Change in Tariff Classification : CTC) ว่าด้วยการลดภาษีลงมาเป็นศูนย์ (Zero-Tariff Barriers) ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไข 

โดยชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิก CTC มี 5 ประเภท คือ

  1. เพลา (Axle) และ เพลาขับ (Drive Shaft)
  2. ตัวถัง และแชสซี
  3. ระบบบังคับเลี้ยว (Steering)
  4. ระบบกันสะเทือน (Suspension)
  5. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

 

โดยชิ้นส่วนทั้ง 5 ประเภทนี้ จำเป็นต้องผลิตขึ้นจากวัสดุจากประเทศสมาชิก NAFTA มากกว่า 75% จึงจะได้รับการรับรองให้สามารถวางจำหน่ายโดยไม่เสียภาษีได้
ขณะนี้ หากต้องการให้ชิ้นส่วนยานยนต์ทั้ง 5 ประเภทนี้ได้รับการรับรอง มี 2 ทางเลือก คือ

  1. ใช้วัสดุจากในภูมิภาคมากกว่า 60%
  2. หากผลิตจากวัสดุในภูมิภาคอื่น สามารถรับการรับรองได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงพิกัดอัตราศุลกากรในระดับ 4 หลัก (Change of Tariff Heading: CTH)

อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกมีผู้ผลิตวัตถุดิบอยู่น้อยราย ซึ่ง Mr. Daisuke Shiga จาก Japan External Trade Organization (JETRO) ได้ชี้แจงว่า “ที่ผ่านมา ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ญี่ปุ่นปฏิบัติตามมาตรฐาน “CTC” โดยนำเข้าวัสดุจากญี่ปุ่นแล้วทำการผลิตในเม็กซิโก ทำให้ได้เป็นซัพพลายเชนที่สามารถส่งสินค้าเข้าขายในสหรัฐฯ ได้โดยไม่เสียภาษี Mr. Makoto Ono หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Mizuho Research Institute กล่าวว่า “หลังจากนี้ ผู้ผลิตต้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุจากประเทศใน NAFTA แทน” ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการผลิตเปลี่ยนไปจากเดิม และแน่นอนว่าจะส่งกระทบไปถึงอุตสาหกรรม Machine Tools ด้วย


นอกจากมาตรฐาน CTC แล้ว NAFTA ยังระบุถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนการใช้วัสดุในภูมิภาค ซึ่งจากเดิมอยู่ที่ 62.5% เพิ่มเป็น 75% และต้องผลิตโดยคนงานที่ต้องได้ค่าจ้างมากกว่าชั่วโมงละ 16 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะส่งผลให้ผู้ผลิตยานยนต์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของอุตสาหกรรมยานยนต์ ต้องปรับตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้