ซีพีเอฟผนึกกัลกุลเดินหน้าโครงการ CPF Solar Rooftop ขนาดใหญ่สุดในไทย ช่วยโลกลดก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยด้วยพลังงานสะอาด

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ตนพร้อมด้วยนายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีเอฟ ลงนามความร่วมมือในโครงการ CPF Solar Rooftop กับ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) 

โครงการนี้เป็นโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาขนาด 40 เมกะวัตต์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ บริษัทที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) ขณะเดียวกันซีพีเอฟยังเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) และสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ( DJSI )

บริษัทจึงได้กำหนดเป้าหมายระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตกลงความร่วมมือผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของซีพีเอฟในครั้งนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละ 28,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือคิดเป็นการปลูกต้นสักถึง 1,440,000 ต้น เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปแล้วกว่า 79,000 ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า (tonCO2eq) หรือเทียบกับการปลูกต้นสัก ประมาณ 4,000,000 ต้น

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหารธุรกิจอาหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า การใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้านอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าพลังงานแล้วยังเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ซีพีเอฟเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในฐานะที่เป็นครัวของโลก เป็นผู้ผลิตอาหารปลอดภัยในมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกยอมรับ บริษัมทจึงมุ่งแสวงหาแหล่งพลังงานวะอาด

ด้าน นายกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ประธานกรรมการ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ CPF Solar Rooftop เป็นความร่วมมือในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยบริษัท กันกุล จะเป็นผู้ลงทุนและดูแลระบบตลอดอายุสัญญาระยะเวลา 15 ปี โดยจะทำการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ทั้งหมด 120,000 แผ่น บนหลังคาของโรงงานซีพีเอฟ 34 แห่ง ครอบคลุมโรงงานอาหารสัตว์บก โรงงานอาหารสัตว์น้ำ โรงงานแปรรูปอาหาร และโรงงานอาหารสำเร็จรูป รวมพื้นที่ 230,000 ตารางเมตร หรือเทียบได้กับโรงไฟฟ้าขนาด 40 เมกะวัตต์ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ถึง 53 ล้านหน่วยต่อปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นโครงการนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ และสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าขององค์กรได้อีกด้วย

“ปัจจุบันมีการใช้งานโซล่าร์บนหลังคาเพิ่มมากขึ้น เพราะต้นทุนของโซล่าร์มีราคาถูกลง และสามารถที่จะนำมาใช้ถูกลง และคุ้มค่ากับการลงทุน ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่า พลังงานแสงอาทิตย์สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ สำหรับภาคอุตสาหกรรม และภาคการผลิตได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าที่ถูกลง และสามารถนำมาใช้เป็นพลังงานหลักในเวลากลางวันได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น”

ทั้งนี้ กันกุลฯ ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทดแทนมา 36 ปี และทำโรงไฟฟ้าโซล่าร์มาแล้วกว่า 300 เมกะวัตต์ ซึ่งมีทั้งโรงไฟฟ้าโซล่าร์บนพื้นดิน และติดตั้งบนหลังคา นอกจากนี้บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจการผลิตติดตั้ง โซล่าร์บนหลังคา ภายใต้แบรนด์ GRoof ซึ่งเพิ่งเปิดแบรนด์ไป เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา