การปฏิวัติของ LINE

อัปเดตล่าสุด 3 ก.ค. 2561
  • Share :

ร่วม Toyota มุ่งสู่ Connected Car

LINE วางแผนเติบโตด้วยเทคโนโลยี AI และธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งจะเป็นเสาหลักต้นใหม่ของธุรกิจ และเร่งลงทุน 3 หมื่นล้านเยนภายในปี 2018 ในการพัฒนาบริการด้านการเงิน และ AI Engine แบบเฉพาะตัว พร้อมเปิดบริการใหม่อื่น ๆ เพื่อมุ่งสู่ยุคสังคมไร้เงินสด และ Connected Car เพื่อให้ LINE กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันได้ ไม่ใช่เป็นเพียงแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเช่นทุกวันนี้

ใช้จุดแข็งที่มีอยู่

ประธานบริษัท LINE อย่าง Takeshi Idezawa กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาธุรกิจ “ReDesign” ของบริษัทว่า “จะเป็นการนำพา LINE ที่ก่อตั้งมาแล้ว 7 ปีเข้าสู่ยุคสมัยใหม่” ปัจจุบัน มีผู้ใช้ LINE ในประเทศญี่ปุ่น 75 ล้านคน ซึ่งจำนวนผู้ใช้นี้เอง ที่เป็นจุดแข็งให้ LINE เล็งใช้เป็นฐานในการมุ่งสู่ธุรกิจบริการด้านการการเงิน

สู่ความเป็นผู้นำด้วยการปฏิวัติ

ปัจจุบัน LINE ให้บริการการจ่ายเงินผ่านสมาร์ทโฟนสำหรับการซื้อขายทั้งออนไลน์และหน้าร้านผ่านบริการ LINE Pay ซึ่ง Mr. Hisahiro Nagafuku ผู้อำนวยการบริษัท LINE Pay ได้ประกาศว่า “จะปฏิวัติให้ LINE ขึ้นเป็นผู้นำ” และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านค้าที่สามารถจ่ายเงินผ่าน LINE Pay ในประเทศญี่ปุ่นให้มีมากกว่า 1 ล้านแห่งให้ได้ภายในปี 2018 นี้ 

อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าสู่ธุรกิจบริการด้านการเงินผ่านสมาร์ทโฟนนั้นมีทั้ง “Rakuten Pay” ของ Rakuten ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกในญี่ปุ่น Yahoo และ NTT DOCOMO ทำให้คาดการณ์ได้ว่าการเข้าสู่ธุรกิจในครั้งนี้ จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่ง LINE ได้ประสานความร่วมมือกับ “QUICPay” บริการด้านการเงินดิจิทัล ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย JCB เพื่อให้สามารถใช้ LINE ในการจ่ายเงินผ่านร้านแฟรนไชส์จำนวน 720,000 แห่งในประเทศญี่ปุ่นของ QUICPay ได้ โดยใช้วิธีการแสกน QR Code เช่นเดียวกับที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม LINE ได้ตั้งเป้ายกระดับความสะดวกของผู้ใช้ ด้วยการพัฒนาให้สามารถจ่ายเงินได้โดยไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟนภายในสิ้นปีนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ LINE ยังได้เริ่มดำเนินการปรับลดความต้องการสำหรับผู้ค้าให้น้อยลง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการในกลุ่ม SME ให้มากยิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งานได้เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นสำหรับร้านค้าเท่านั้น รวมไปถึงการไม่คิดค่าธรรมเนียมเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป

ประธาน Idezawa กล่าวให้ความเห็นเกี่ยวกับธุรกิจบริการด้านการเงินในประเทศญี่ปุ่นว่า “หากใช้งานไม่สะดวก ผู้ใช้ก็จะทิ้งเราไปเอง” และตั้งใจจะเร่งการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริการด้านการเงินนี้ให้พร้อมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ร่วมมือกับ Clova

ส่วนในด้าน AI นั้น LINE ได้ตัดสินใจจับมือกับ Clova ผู้พัฒนา AI ระบุตัวตนด้วยเสียง เพื่อประสานความร่วมมือในการทำงานร่วมกับรถโมเดลใหม่ของ Toyota ที่จะออกสู่ตลาดในฤดูหนาวนี้ โดย Mr. Jun Masuda หัวหน้าแผนกลยุทธ์และการตลาดได้กล่าวว่า “สภาพแวดล้อมภายในยานยนต์นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการระบุตัวตนด้วยเสียง” และตั้งใจพัฒนาให้สามารถใช้คำสั่งเสียงในการเปิดปิดไฟบ้าน ส่งข้อความ และใช้ฟังก์ชั่นอื่น ๆ ผ่าน LINE ขณะขับรถได้ นอกจากนี้ ยังตั้งใจร่วมมือกับ Clova ต่อไป เพื่อให้ Toyota เลือกตนเป็นผู้ให้บริการในรถโมเดลอื่นหลังจากนี้อีกด้วย

ขณะนี้ LINE ได้เริ่มออกวิ่งในธุรกิจบริการด้านการเงินและยานยนต์อย่างรวดเร็ว ด้วยการอาศัยฐานลูกค้าจำนวนมากที่ตนมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผลลัพธ์จะออกมาเช่นไรนั้น ก็ต้องรอดูกันในอีก 1 ปีนับจากนี้