โตชิบา ไทยแลนด์ รุกหนักครึ่งปีหลัง 2018 หวังรายได้โต 2 ดิจิต

อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 2561
  • Share :

โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชัน (TLSC) และ โตชิบาไทยแลนด์ ร่วมแถลงข่าว “A New Chapter Beyond All Limits ” เปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมชูนโยบายและแผนการตลาดเชิงรุกในครึ่งปีหลัง 

นายโตชิโระ อิชิวาตาริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอเรชัน (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า โตชิบา ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดี ภายใต้มาตรฐานการดีไซน์และการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นด้านคุณภาพชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค

อีกทั้งยังยังยืนยันเจตนารมณ์เดิมที่จะลงทุนในประเทศไทย ทั้งในแง่เป็นฐานการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการขายและการทำตลาด  และโตชิบาจะยังคงเติบโต ยั่งยืน และก้าวไปด้วยกันกับคนไทย เพื่อนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตคนไทย ตามสโลแกนโตชิบา

นายไบรอัน จ้าว ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับตลาดในประเทศไทย  ภาพรวมเศรษฐกิจ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ในช่วงฟื้นตัว และมีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตสูงถึง 4.1% ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดตั้งแต่ปี 2555 ส่วนค่า GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 4.8% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ถึงแนวโน้มในเชิงบวกว่าธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจะดีขึ้น 

สำหรับแผนการตลาดครึ่งปีหลัง โตชิบายังคงใช้ความได้เปรียบจากการรวมกันของ 3 ประเทศ ได้แก่สินค้าคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ความรวดเร็วในการผลิตและการพัฒนาจากประเทศจีน และประสบการณ์การทำตลาดอันยาวนานจากประเทศไทย เปิดตัวคอนเซปต์ A New Chapter Beyond All Limits เพื่อตอกย้ำ         โตชิบายุคใหม่ ที่จะก้าวทะยานไปข้างหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด โดยคาดหวังจะเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า Top 3 ในประเทศไทย ภายใน 3 ปี และต้องเติบโตอย่างน้อย 2 ดิจิตขึ้นไป 

นายฮิโรยูกิ ทากาเสะ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและทีวี กล่าวเสริมว่าจากข้อมูลเดือนมกราคมถึงเมษายน 2561 ที่ผ่านมา มูลค่าการตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย เติบโตขึ้น 0.2% โดยสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้นเยอะได้แก่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก (SDA – Small Domestic Appliances) โดยยอดขายโตชิบาโตถึงกว่า 20% โดยมาจากตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ และเครื่องทำน้ำอุ่นที่เติบโตถึง 38% 35% 189% และ 146% ตามลำดับ  ส่วนเครื่องปรับอากาศ เติบโตเพียง 1%   

นายบุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้โตชิบาจะเปิดตัวสินค้ามากมาย โดยเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้า ที่จะมาขยาย Market Share ของโตชิบาให้กว้างขึ้น ทั้งตลาดพรีเมียมและตลาดแมส 

สำหรับสินค้ากลุ่มตู้เย็น โตชิบาเป็นที่ 1 ในเรื่องตู้เย็นประตูเดียวมาตลอดหลายปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีตู้เย็น 2 ประตู และตู้เย็นมินิบาร์ แต่ในปีนี้ เราจะมาครบไลน์อัพ เติมเต็มช่องว่างเค้กก้อนใหญ่ในส่วนของตู้เย็นมัลติดอร์ (Multi Doors) และตู้เย็นไซด์บายไซด์ (Side By Side) ที่มีมูลค่าการตลาดถึงหนึ่งพันล้านบาท โดยมีแผนออกสินค้าในไตรมาส 4 ส่วนในไตรมาส 3 เราส่งตู้เย็น 1 ประตูรุ่นใหม่ FIT ที่ปรับโฉมใหม่ เพื่อยังคงรักษาความเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในตู้เย็น 1 ประตู ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเกือบ 30%

ส่วนตลาดเครื่องซักผ้า เราตั้งเป้าเติบโต 50% โดยขยายไลน์อัพเพิ่ม ด้วยการเปิดตัวเครื่องซักผ้า 2 ถังสำหรับจับตลาดกลางถึงล่าง และเพิ่มเครื่องซักผ้าฝาหน้า และ 2 in 1 เครื่องซักอบผ้าฝาหน้า เพื่อจับกลุ่มคอนโด และตลาดกลางถึงบน ซึ่งใน 2 ตลาดดังกล่าว มีมูลค่าการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาช่วยเติมเต็ม Market Share ของกลุ่มเครื่องซักผ้าของโตชิบามากขึ้น

นายชาตรี พลสอนดา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูงมาก มีความต้องการใช้ต่อเนื่อง และด้วยความที่สินค้ามีหลากหลาย จึงตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้แตกต่างกัน

สำหรับแบรนด์โตชิบา เราตั้งเป้าขึ้นเป็น Top 3 ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายใน 3 ปี  โดยในครึ่งปีแรก เห็นผลชัดเจนว่าเราเติบโตมากในกลุ่มสินค้ากลุ่มไมโครเวฟ ซึ่งโตขึ้นถึง 189% นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งโตขึ้นถึง 146% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะนี้โตชิบากำลังขยายไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องปั่นน้ำผลไม้เพิ่ม ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงเช่นกัน เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อน และคนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เครื่องปั่นน้ำผลไม้ของโตชิบา มาด้วยเทคโนโลยี Off Center ที่ช่วยให้น้ำผลไม้ปั่นละเอียดยิ่งขึ้น

นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กล่าวเสริมว่า นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อตลาดแล้ว ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยโดยตรงจากกลุ่มผู้บริโภคด้วย อย่างแนวโน้มหรือเทรนด์ เรื่องความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งแนวโน้มดังกล่าว จะส่งผลต่อการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมถึงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ อย่างเรื่องการประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังรวมถึงการรักษ์โลก ประหยัดพลังงาน และการรักสุขภาพ  ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของโตชิบา จึงถูกออกแบบมา โดยคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นปัจจัยหลัก เพื่อให้แน่ใจว่า เราจะ “นำสิ่งที่ดี มาสู่ชีวิต” ให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง

นางกนิษฐ เมืองกระจ่าง ประธานกรรมการบริหารบริษัท กล่าวเสริมว่า นอกจากบริษัทฯ จะเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และแผนการตลาดต่างๆ ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีแผนการพัฒนาระบบสารสนเทศ  ระบบงานบริการหลังการขาย  ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล และระบบต่าง ๆ เพื่อเตรียมรองรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ขอให้เชื่อมั่นในโตชิบา เรายังคงเป็นแบรนด์ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทไม่ได้เน้นเพียงเรื่องการขายและการบริการเท่านั้น แต่ต้องเป็นบริษัทที่รับผิดชอบต่อท่านผู้แทนจำหน่าย  ต่อสังคม ต่อคนรุ่นต่อไป ต่อประเทศชาติที่รักของพวกเราทุกคน และจะ “มุ่งมั่น …นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต”