Mitsubishi Chemical ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเรซิ่น

Mitsubishi Chemical ย้ายศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเรซิ่นไปเยอรมนี

อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 2561
  • Share :

Mitsubishi Chemical ย้ายศูนย์กลางการผลิตเรซิ่นคุณภาพสูง หรือที่รู้จักในชื่อ Performance Polymer สำหรับใช้ในการตกแต่งภายในยานยนต์ จากญี่ปุ่นไปยังเยอรมนี

การย้ายศูนย์กลางการผลิตเรซิ่นคุณภาพสูงในครั้งนี้ เพื่อรองรับกับการขยายธุรกิจด้านเรซิ่นในระดับโลก และยกระดับคุณภาพของบุคลากรให้หลากหลายโดยไม่จำกัดไว้เพียงแค่ในประเทศญี่ปุ่น โดยมุ่งเน้นไปที่การบริหารบุคลากรที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน Mitsubishi Chemical มีฐานการผลิตเรซิ่นอยู่ใน 16 ประเทศ รวมแล้ว 26 แห่ง โดยสำนักงานหลักสำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้ถูกย้ายไปที่สำนักงานในเมืองดึสเซิลดอร์ฟ (Düsseldorf) ประเทศเยอรมนี อย่างไรก็ตาม แผนกบริหารส่วนหนึ่งยังคงอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเช่นเดิม

นอกจากผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายในยานยนต์ เช่น ฝาครอบถุงลมนิรภัยแล้ว ผลิตภัณฑ์เรซิ่นของ Mitsubishi Chemical ยังครอบคลุมไปถึงอุปกรณ์การแพทย์ บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร สายไฟ และอื่น ๆ  และด้วยเหตุนี้เองการย้ายพนักงานในศูนย์ต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานดำเนินได้อย่างราบรื่น ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกานั้น จึงกลายเป็นเป้าหมายของทางบริษัทในครั้งนี้

โดยบริษัทได้วางแผนให้เยอรมนีเป็นฮับ (Hub) ของเครือข่ายพนักงาน เนื่องจากความได้เปรียบในที่ตั้งของเยอรมนีที่ช่วยลดความเลื่อมล้ำของเวลาทำงานระหว่างญี่ปุ่น อเมริกา จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มากนัก

นอกจากนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง Mitsubishi Chemical ยังได้ตั้งให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางของธุรกิจเรซิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายในการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในภูมิภาคต่าง ๆ และการจัดการบุคลากรที่จะสามารถทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนด้านการวิจัยและพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น จะดูแลโดยสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งจะนำเข้าวัสดุจากสิงคโปร์เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา และคาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนให้ต่ำลงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2009 ทางบริษัทก็เคยย้ายฮับของธุรกิจ Terephthalic acid ไปที่สิงคโปร์มาแล้ว อย่างไรก็ตาม การย้ายฮับในครั้งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการปรับผังโครงสร้างธุรกิจ ไม่ใช่การปรับเพื่อยกระดับประสิทธิภาพเฉกเช่นในครั้งนี้