รี้ดฯ เปิดตัว 4 งานใหม่ ROBOT X รับอุตฯ 4.0
จากทิศทางของการพัฒนาการผลิตสู่ยุค 4.0 ในอุตสาหกรรมภาคการผลิตทั้งในระดับโลกและอาเซียนมีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะเพิ่มสูงขึ้น 2 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีการนำเข้าหุ่นยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับแนวโน้มการผลิตหุ่นยนต์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยเป็นผลมาจากความจำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไปถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับภาวะการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมในอนาคต จึงยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ "หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ” ในภาคการผลิต ปัญหานี้เป็นเหมือนกันทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่ในประเทศไทย ส่งผลให้แนวโน้มการใช้ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นางเด็บบี้ อีแวนส์ ประธานบริษัท รี้ด เอ็กซ์ฮิบิชั่นส์ ภาคพื้นอาเซียนและออสเตรเลีย กล่าวว่า “ทิศทางของงานแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบเฉพาะทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น AI ระบบออโตเมชั่น หุ่นยนต์ และคาดว่าจะมีการผลิตหุ่นยนต์มากถึง 61.4 ล้านตัวในปี 2563
ในส่วนของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมนั้นมีความต้องการสูงใน 5 อุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็อทรอนิกส์ เป็นต้น โดยเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับรายงานของ International Federation of Robotics (IFR) ที่คาดการณ์ว่า ในปี 2562 จะมีอุตสาหกรรมใหม่ที่มีสายการผลิตเป็นหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านราย โดย 65% อยู่ในยุโรป โดยจะยิ่งมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วโลก”
“อาเซียนโดยเฉพาะประเทศไทย เป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยแวดล้อมเอื้อต่อการใช้หุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นระดับของการผลิตในขั้นสูง ปริมาณความต้องการแรงงานที่เชี่ยวชาญ และความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค เป็นเหตุให้รี้ด เอ็กซ์ฮิบิชั่น เลือกประเทศไทยเพื่อเปิดตัว 4 งานแสดงหุ่นยนต์ภาคอุตสาหกรรมในครั้งนี้เพื่อฝห้ผู้เข้าชมงานที่เป็นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมของไทยจะได้เห็นและเลือกใช้เทคโนโลยีรุ่นใหม่ ๆ ได้พร้อมกับฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ ทั่วโลก” นางเด็บบี้กล่าวเสริม
ในส่วนของนายอิสระ บุรินทรามาตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด เผย “ความต้องการเทคโนโลยีหุ่นยนต์ในทุกสาขาอุตสาหกรรมปรับตัวสูงขึ้น ด้วยเทรนด์ของ Smart Factory ประกอบกับนโยบาย Thailand 4.0 การที่บริษัทฯ เป็นผู้นำการจัดงานแสดงเทคโนโลยีรองรับภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีฐานผู้เข้าชมงานในแต่ละปีรวมกันกว่า 250,000 คน อยู่แล้วจึงเป็นจุดแข็งของเรา”
“ดังนั้นการเปิดตัว 4 งานแสดงหุ่นยนต์อุตสาหกรรมควบคู่ไปกับงานหลักที่มีอยู่จึงเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมแสดง ว่าจะมีผู้เข้าชมงานซึ่งเป็นฐานผู้ซื้อ ที่มีความต้องการหุ่นยนต์อยู่แล้วทันที โดยในขณะนี้มีแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วมงานแล้วในทั้ง 4 งานรวมกันกว่า 30 แบรนด์จาก 10 ประเทศ โดยมีความหลากหลายของเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมในทุกขนาดตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึง SMEs”
“ทั้งยังตระหนักถึงการเตรียมพร้อมให้กับผู้ประกอบการในด้านต่าง ๆ ด้วยการจัดให้มีงานสัมมนาเรื่องแนวทางการปรับตัวก่อนที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยน การพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้ประกอบการที่มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีไปแล้วกับโรงงานที่กำลังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ พร้อม ๆ กับการ Workshop เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ”
โดยทั้ง 4 งานภายใต้ RobotX (ROBOT EXPO) ซีรีส์ ประกอบด้วย
ทางบริษัทคาดว่าการออกแบบงานแสดงสินค้าใหม่ “โรบอท เอ็กซ์โป” ในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าทางด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ครบวงจรที่สุดของอาเซียน และคาดว่าตลอด 3 ปี นับจากนี้จะสร้างมูลค่าการซื้อเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่ออุตสาหกรรมการผลิต ผ่านงานแสดงสินค้าของบริษัท ไม่น้อยกว่า หนึ่งหมื่นล้าน