AISIN GROUP ได้ประกาศลงทุนเสริมกำลังผลิตเกียร์ออโต้ ด้วยการก่อตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง AISIN AW ผู้ผลิตเกียร์ออโต้รายใหญ่ ร่วมกับบริษัทสัญชาติจีน Guangzhou Automobile Industry Group และ Zhejiang Geely Holding Group โดยมีกำหนดเริ่มการผลิตในปี 2020 นอกจากนี้ ยังมีแผนเริ่มการผลิตเกียร์ออโต้เพิ่มที่โรงงาน AISIN AW มณฑลเหอเป่ย์ด้วยการลงทุนเพิ่มอีก 9 หมื่นล้านเยน อย่างไรก็ตาม การลงทุนครั้งนี้ของ AISIN สามารถมองได้ว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากเกียร์ออโต้แบบที่ใช้ในปัจจุบันไม่ได้ถูกนำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอาจความต้องการลดลงในอนาคต

AISIN AW, Guangzhou Automobile Industry Group, และ Zhejiang Geely Holding Group มีแผนเริ่มก่อสร้างโรงงานที่มณฑลเจ้อเจียงในปี 2018 ซึ่งจะทำให้มีทุนจดทะเบียนที่ 117 ล้านดอลล่าร์(13,000 ล้านเยน) ทั้งนี้ AISIN จะถือหุ้นจำนวน 60% และอีก 40% ถือหุ้นโดยสองบริษัทจีน รวมถึงมีแผนลงทุนเพิ่มอีก 7 หมื่นล้านเยนในอนาคต เพื่อผลิตเกียร์ออโต้ 6 สปีดสำหรับระบบขับเคลื่อนแบบ Front-Wheel Drive

ส่วนทางด้านโรงงานเหอเป่ย์นั้น AISIN SEIKI ได้เข้าร่วมลงทุนเป็นจำนวนเงิน 2 หมื่นล้านเยน และมีกำหนดเริ่มการผลิตในเดือนสิงหาคม 2019 รวมถึงมีแผนเดินเครื่องการผลิตเกียร์แมนวลใหม่ในอนาคต

ปัจจุบัน AISIN GROUP มีผลิตเกียร์ออโต้ได้รวมแล้ว 9.8 ล้านหน่วยในไตรมาสแรกของปี 2018 มากขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 13% และมากเป็น 2 เท่าจากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อหลัง Lehman Shock ทำให้ทาง AISIN มีแผนเพิ่มเงินลงทุนซึ่งจากเดิมตั้งไว้ที่ 1 แสนล้านเยนเมื่อปี 2017 ให้สูงขึ้นไปอีก และตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตให้สูงขึ้นอีก 25% หรือเท่ากับ 12.5 ล้านหน่วยในปี 2020 ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการปรับขึ้นอีกหลังจากนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบาย NEV ที่รัฐบาลจีนประกาศให้มีผลในปี 2019 ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนจะเปลี่ยนทิศไปยังรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง Mizuho Bank คาดการณ์ว่าในปี 2030 ยอดขายรถ 29% ในจีนจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ คือ 6% และ 4% ตามลำดับ

นอกจากนี้ AISIN SEIKI ยังได้กล่าวแสดงความเห็นต่อการลงทุนเกียร์ด้านออโต้ว่า เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยง และมองว่าการที่ AISIN AW เข้าร่วมตั้งบริษัทร่วมทุนกับผู้ผลิตจีนในครั้งนี้ก็เพื่อเตรียมรับการชะลอตัวของตลาดเกียร์ออโต้ที่ AISIN AW เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตลอด 10 ปี

อย่างไรก็ตาม AISIN ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เกียร์ออโต้และมอเตอร์สำหรับรถไฮบริดอยู่ หากจะมองอีกมุมว่าการลงทุนด้านเกียร์ออโต้ในครั้งนี้เป็นการปูรากฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตก็ย่อมได้