โตโยต้า พร้อมสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า
- Share :
ตามที่ Toyota ได้เผยแนวทางระยะยาวเมื่อปี 2015 ว่าจะเลิกจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และเหลือเพียงการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดให้ได้ภายในปี 2050 หลังจากนั้นในเดือนธันวาคม 2017 Toyota ได้ออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมด้านตัวเลข ว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 5.5 ล้านคันในปี 2030 จึงกล่าวได้ว่า การแสดงออกของ Toyota เช่นนี้ ได้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันความต้องการรถยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและแพร่หลายมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในปี 2017 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 8% สำเร็จเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ใน “Toyota Environmental Challenge 2050”เร็วกว่ากำหนดถึง 3 ปี แม้ยอดขายเกือบทั้งหมดจะมาจากรถไฮบริด แต่จากแนวทางทั่วทั้งโลกแล้ว ทำให้คาดได้ว่าอัตราส่วนยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าและ FCV จะสูงขึ้นในอนาคต
รองประธานบริษัท Toyota Mr. Shigeki Terashi กล่าวถึงการก้าวไปสู่เป้าหมายที่ 5.5 ล้านคัน ซึ่งเป็นยอดขายที่มากกว่าปัจจุบันถึง 3.7 เท่าว่า Toyota จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในมิติอื่น ๆ และมองว่าการที่ Toyota ประกาศตัวเลขชัดเจนนั้น เป็นเพราะทางบริษัทได้เล็งเห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ซึ่งเป็น “โจทย์สุดท้าย” ของรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว และคำตอบของ Toyota ก็คือ การร่วมมือทางธุรกิจกับ Panasonic ในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบเหลี่ยมสำหรับยานยนต์เมื่อเดือนธันวาคม 2017 และกำหนดการเปิดไลน์ผลิตแบตเตอรี่ HV เพิ่มของบริษัทลูก Primearth EV Energy ที่โรงงานโอโมริ โรงงานมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น และโรงงานประเทศจีน
นอกจากนี้ Toyota ยังมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ แบตเตอรี่ และ PCU ของรถ HV “Prius” ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกจำหน่ายรุ่นแรกของ Toyota ให้แล้วเสร็จก่อนปี 2020 เพื่อนำไปใช้กับรถ PHV, FCV, และ EV ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ยุคหน้าในภาพรวม
เมื่อปี 2016 นั้น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกมีเพียง 3.5% เท่านั้น อย่างไรก็ตามธนาคาร Tokyo-Mitsubishi UFJ ได้คำนวณว่า ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งสู่งขึ้น จนทำให้อัตราส่วนยอดขายนี้กลายเป็น 57% ภายในปี 2035 หรืออย่างน้อยคือ 35%
จากจำนวนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่โลกในปัจจุบันซึ่งมี HV เป็นหลักนั้น 40% ของจำนวนนี้เป็นของ Toyota ประธาน Akio Toyoda จึงตัดสินใจเดินหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึงก็เป็นที่น่าจับตามองว่า Toyota จะนำจุดแข็งของตนในตอนนี้ ไปใช้งานอย่างไรในอนาคต
อุตสาหกรรมยานยนต์นั้น มีคำกล่าวว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นทุก 100 ปี ซึ่งมาตรการ ZEV (Zero Emission Vehicle) และ CAFE (Corporate Average Fuel Efficiency) นี้เอง ที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้งด้านเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่การแข่งขันในอนาคต จึงเป็นที่น่าจับตามองว่าผู้ผลิตแต่ละรายจะใช้วิธีการใดในการแข่งขันครั้งนี้
อ่านต่อ
