ยักษ์มะกันทุ่มงบ 1.5 พันล้าน ปั้นไทยฮับส่งออกเครื่องซักผ้า
"อลิอันซ์ ลอนดรี้" บริษัทยักษ์ผู้ผลิตเครื่องซักผ้าพาณิชย์สหรัฐ ปักธงตั้งไทยฮับเอเชีย-แปซิฟิก ทุ่ม 1.5 พันล้านผุดโรงงานอีอีซีป้อนส่งออก 40 ประเทศ พร้อมปั้นไทยสำนักงานใหญ่คุมการตลาด เดินหน้าตั้งดิสทริบิวเตอร์ปั้นตลาดแฟรนไชส์ร้านซักรีดในไทย ซุ่มผุดสาขา กทม.-หัวเมือง ชูจุดขายทำงาน-คืนทุนเร็ว เจาะผู้บริโภคระดับกลางรุ่นใหม่ หวังกระตุ้นดีมานด์เครื่องซัก-อบเชิงพาณิชย์
นายฌ็อง-ฟรองซัว ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดระหว่างประเทศ บริษัท อลิอันซ์ ลอนดรี้ ซิสเต้มส์ ผู้ผลิตเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์สัญชาติสหรัฐ เช่น แบรนด์สปีดควีน ยูนิแม็กซ์ ซึ่งดำเนินธุรกิจมานาน 110 ปี มีลูกค้าใน 140 ประเทศทั่วโลกรวมถึงไทย กล่าวว่า ตลาดเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์ในเอเชีย-แปซิฟิกรวมถึงไทยเติบโตต่อเนื่องตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการแพทย์ อาทิ โรงแรมและโรงพยาบาล ทำให้ดีมานด์โซลูชั่นการทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่มและเครื่องนอนปริมาณมากพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย
ขณะเดียวกันไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีครอบครัวเล็กหรือโสด รวมถึงอาศัยในคอนโดฯเพิ่มขึ้น จึงเปิดรับบริการร้านซักผ้าหยอดเหรียญมากขึ้นเช่นกัน สะท้อนจากยอดขายของบริษัทในภูมิภาคนี้ที่เติบโตเร็วกว่าโซนอื่น ๆ ถือเป็นโอกาสของบริษัทซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของโลกด้วยโนว์ฮาวในธุรกิจกว่า 110 ปี และขนาดธุรกิจที่มีโรงงานในสหรัฐ จีน และสาธารณรัฐเช็ก พร้อมลูกค้าใน 140 ประเทศทั่วโลก ที่จะขยายฐานเข้ามาในภูมิภาคเพื่อคว้าโอกาสจากดีมานด์เหล่านี้
โดยไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพหลายด้าน ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ฝีมือแรงงาน ทำเลศูนย์กลางภูมิภาคและนโยบายอีอีซีจึงได้ตัดสินใจลงทุน 1,500 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเชิงพาณิชย์ ขนาด 2.4 หมื่น ตร.ม. กำลังผลิต 32,000 เครื่องต่อปี พร้อมโกดังและศูนย์วิจัยพัฒนาบนพื้นที่รวม 51 ไร่ ที่นิคมเหมราชชลบุรี 2 จังหวัดระยอง มีกำหนดเดินเครื่อง เม.ย. ปี 2562 เพื่อป้อนตลาดเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงไทย ในอัตราส่วน 90% ต่อ 10% ตามลำดับ และใน 3 ปีจะขยายเฟส 2 อีก 2.4 หมื่น ตร.ม. ด้วยงบฯ อีกประมาณ 1.5 พันล้านบาท
นอกจากนี้ เตรียมตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในประเทศไทย ดูแลการทำตลาดตั้งแต่อินเดีย ออสเตรเลีย จีน จนถึงญี่ปุ่น จากเดิมที่อาศัยบริหารจากสำนักงานในสหรัฐ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวรองรับการเติบโตและการแข่งขัน
ด้านกลยุทธ์การตลาดนั้นเตรียมรุกตลาดผ่านดิสทริบิวเตอร์ทั้งกลุ่มโรงแรม-โรงพยาบาล ซึ่งทำตลาดในไทยมานานกว่า 30 ปี และกลุ่มร้านซักผ้าหยอดเหรียญ หรือร้านสะดวกซัก ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ในไทย โดยขณะนี้มีดิสทริบิวเตอร์ทดลองเปิดบริการทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด เช่น ซอยลาซาล กระบี่ เชียงใหม่ เน้นจับผู้บริโภคระดับกลาง ด้วยระดับราคาเริ่มต้น 40 บาท ชูจุดขาย
เรื่องความทนทานการบำรุงรักษาต่ำ ไซซ์ใหญ่ตั้งแต่ 6-180 กิโลกรัม และใช้เวลาทำงานน้อยกว่าเครื่องที่มีในตลาดครึ่งหนึ่ง ตอบโจทย์ทั้งเจ้าของกิจการและผู้ใช้งาน รวมถึงอาศัยกำลังผลิตและสต๊อกอะไหล่จากการมีโรงงานในประเทศเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันโดยจะมีการเปิดตัวสินค้าและโมเดลธุรกิจร้านซักผ้าอย่างเป็นทางการในงานอีเวนต์ช่วงเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อหาดิสทริบิวเตอร์และนักลงทุนที่สนใจโมเดลแฟรนไชส์