รถยนต์ไฟฟ้า ในสายตาของสภาอุตฯ

อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 2561
  • Share :
  • 418 Reads   

นับว่าเป็นกระแสที่มาแรงมากๆ ในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้าหรือรถ EV ผู้ใช้รถหลายท่านให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นพิเศษ วันนี้ M Report จะมาอัปเดตเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ว่ารัฐบาลจะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงและดำเนินการไปถึงไหนแล้วบ้าง

อันที่จริง รัฐบาลก็มีการคุยเรื่องนี้มานานแล้วและรัฐบาลก็มีการส่งเสริมอย่างจริงจัง ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ เนื่องจากยานยนต์ไฟฟ้าจะเป็นคลื่นลูกแรกในการปฎิวัติอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีการวางแผนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าไว้แล้วด้วย แต่อาจจะใช้เวลานานหน่อยเพราะว่ารัฐบาลได้วางแผนไว้เป็นระยะยาวถึง 20 ปี โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ

และในปี 2561 นี้ นับว่าเราอยู่ในระยะที่ 2 แล้ว เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าประเทศไทยกำลังเตรียมพร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยในปัจจุบันนี้ก็มีการวิจัยเรื่องสมรรถนะแบตเตอรี่มอเตอร์อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มจํานวนรถ รูปแบบค่าบริการ/มาตรฐาน จุดบริการสถานีอัดประจุให้เพียงพอ และมาตรการจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  ได้เปิดเผยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าว่า “ปีที่แล้วก็มีการสัมมนาเรื่องเสียง ของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กว่าควรมีเสียงแบบไหน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าทำงานเงียบมาก รวมถึงการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนทางด่วน เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กไม่แน่ใจในสมรรถภาพว่าจะสามารถวิ่งบนทางด่วนได้หรือไม่ ตอนนี้ก็มีการสัมมนาในเรื่องนี้อยู่ว่าควรทำอย่างไร ควรจะต้องมีช่องต่างหากหรือไม่ ไปจนถึงการออกแบบว่าควรใช้เสียงอย่างไรด้วย

ส่วนเรื่องของการชาร์จไฟก็อยู่ในช่วงพิจารณาออกมาว่า ควรจะชาร์จไฟอย่างไร ตอนกลางวันอัตรานึง กลางคืนอัตรานึง อีกทั้งเรื่องที่จะติดตั้งสถานีให้มากขึ้นก็มีหลายบริษัทที่ตั้งเป้าว่าจะติดตั้งสถานีเหล่านี้ ถ้าสถานีชาร์จไฟมีจำนวนมากขึ้นเท่าไหร่รถยนต์ไฟฟ้าก็คงจะมีมากขึ้นตามไปด้วย แต่ส่วนตัวเห็นว่าคงไม่มากเท่ารถยนต์อีโคคาร์

ทั้งนี้ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเสริมอีกว่า ตามตัวเลขการจดทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก วันที่ 31 ก.ค. มีตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟฟ้า อยู่ที่ 65 คัน ซึ่งเรามีการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ามากมาย หลายยี่ห้อแต่ว่าราคาเขาสูง ทำให้สร้างยอดขายได้ไม่มาก ซึ่งเช่นเดียวกับไฮบริดที่เราแนะนำในเมืองไทยแล้วก็ขายในเมืองไทยด้วย แต่ก็มียอดจดทะเบียนอยุที่ประมาณเก้าหมื่นคัน