“ฟอร์ด” กำลังมุ่งสู่รถอีวี
ในงาน “ดีทรอยต์ออโตโชว์” ซึ่งเป็นมอเตอร์โชว์แรกของโลกในรอบปีจัดเป็นงานใหญ่ที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมรถยนต์โดยผู้ประกอบการจะใช้งาน บอกให้ทั่วโลกรู้ว่า ตัวเองจะ “ทำอะไร” และ “ไปทางไหน”
บิล ฟอร์ด ประธานคณะกรรมการฟอร์ด กล่าวว่า ในปี 2022 ฟอร์ดจะเป็นค่ายที่มีรถยนต์ไฮบริด 24 รุ่น และรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัว 16 รุ่น
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับการที่หลายประเทศทั่วโลกเพิ่มแรงกดดันแก่ผู้ผลิตรถยนต์ในการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส, โตโยต้า และโฟล์กสวาเกน ต่างเปิดเผยแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เห็นกันมากขึ้น
“บิล ฟอร์ด” ย้ำว่า การโฟกัสรถยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ดจะมุ่งไปที่โมเดลรุ่นต่าง ๆ ของฟอร์ดเอง โดยยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยสักรุ่น
“เราทุกคนกำลังมุ่งไปที่รถยนต์ไฟฟ้า และเราจะใช้รถรุ่นหลักของเรา หรือรุ่นที่โดดเด่นมากที่สุด ในการพัฒนาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหากเราอยากประสบความสำเร็จ เราจะต้องพัฒนาในรถรุ่นที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว” บิล ฟอร์ด กล่าว
ด้าน สเตฟานี บรินลีย์ นักวิเคราะห์ตลาดรถยนต์ กล่าวว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มใหญ่ที่ค่ายรถจะหันมาลงทุนในการใช้พลังงานไฟฟ้า
“อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของกฎระเบียบที่จะเข้มงวดมากขึ้น แต่ยังคาดหวังว่ารถยนต์ไฟฟ้าเหล่านั้นจะสนับสนุนการขับขี่แบบไร้คนขับ
อย่างไรก็ตาม คำถามใหญ่คือผู้บริโภคจะปรับตัวไปได้เร็วแค่ไหน เพราะตอนนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังมีเพียงแค่ 1%เท่านั้น” บรินลีย์กล่าวและว่า ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงไม่ควรจะเปลี่ยนแค่ยานยนต์อย่างเดียว แต่อินฟราสตรักเจอร์ต่าง ๆ เช่น ถนน ก็ควรจะดีขึ้นเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย
ทั้งนี้ บีบีซีรายงานว่า ฟอร์ดประกาศว่าจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งมากกว่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า