ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั่วโลกเร่งทัพพัฒนา ลดต้นทุนเพื่อเสริมศักยภาพ
ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ทั่วโลกอยู่ระหว่างการเสริมศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนสำหรับยานยนต์แห่งอนาคตทั้ง EV และยานยนต์อัตโนมัตินั้นจำเป็นต้องใช้เงินทุนมหาศาล ทำให้คาดการณ์ได้ว่าชิ้นส่วนที่ใช้กับรถใช้น้ำมันจะถูกลดต้นทุนให้ต่ำลงไปกว่าในปัจจุบัน ทำให้หลายบริษัทเร่งพัฒนาระบบเพื่อลดต้นทุนให้อยู่ในงบประมาณที่จำกัด
คนไทย 250 คน
ในปีงบประมาณ 2020 Yorozu จะเพิ่มจำนวนนักพัฒนาผู้รับผิดชอบด้านแม่พิมพ์และอุปกรณ์การผลิตในไทยของ YOROZU Engineering Systems (Thailand) (YEST) จาก 110 คน ขึ้นเป็น 250 คน และคาดว่าโลหะจำพวก High Tensile Steel จะกลายเป็นวัสดุหลักที่ใข้ในการลดน้ำหนักของระบบกันสะเทือนในเจเนอเรชั่นหน้า ซึ่ง Yorozu ได้ลงทุนกว่าพันล้านเยนให้กับ YEST รวมถึงติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม เพื่อเสริมศักยภาพในการพัฒนาแม่พิมพ์ที่เหมาะสมสำหรับวัสดุที่ขึ้นรูปยาก
ส่วนทางด้าน Calsonic Kansei เอง ก็ได้เผยแนวทางการเพิ่มจำนวนทีมพัฒนาของ “CalsonicKansei Engineering Yangon” ขึ้นเป็น 3 เท่า หรือเท่ากับ 60 คน ในปี 2020 และตั้งเป้าไว้ที่ 100 คนในอนาคต ซึ่งปัจจัยในการเพิ่มทีมพัฒนาในพม่านี้เป็นผลมาจากอัตราค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้การใช้ต้นทุนลดลงนำไปสู่การมุ่งพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอื่น ๆ
ลดต้นทุน 30%
ในขณะเดียวกัน ก็มีความเคลื่อนไหวทางด้านโครงสร้างการพัฒนาเพื่อลดต้นทุนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่าง AISAN INDUSTRY ได้เริ่มโครงการ “3CUE” เพื่อเสริมสมรรถภาพของและลดต้นทุนชิ้นส่วนที่มีอยู่เดิม ให้ควบคู่ไปพร้อมกัน โดยรวมแผนกพัฒนา เทคโนโลยีการผลิต แผนกการผลิต และฝ่ายจัดซื้อเข้าด้วยกันในการร่วมพัฒนาสินค้า ซึ่งปัจจุบันก็ประสบความสำเร็จจากการลดต้นทุนของ Fuel pump ลงได้ถึง 30% และหลังจากนี้ก็มีแผนนำเทคโนโลยีชิ้นส่วนเครื่องยนต์และจักรยานยนต์มาใช้ในการพัฒนา Minicar และ Compact Car และสร้างคอนเซ็ปท์ที่ลดต้นทุนให้ต่ำลงไปอีก” (Mr. Nobuo Kobayashi ประธานบริษัท AISAN INDUSTRY)
ส่วนทางด้านจีนที่เป็นตลาดหลักของภาคยานยนต์นั้น ในปี 2019 จะเริ่มใช้นโยบายการกำหนดอัตราส่วนยานยนต์ ให้มีส่วนหนึ่งเป็น New Energy Vehicle (NEV) เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่วนทาง Toyota เอง ก็เร่งการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้สามารถออกสู่ถนนได้ในช่วงครึ่งแรกของช่วงปี 2020 ซึ่งการเตรียมความพร้อมของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นี้ ก็มีขึ้นเพื่อตอบรับความต้องการลุดต้นทุนซึ่งจะมากขึ้นอีกในอนาคตนั่นเอง