Toyota และผู้ผลิตยานยนต์ ขยายตลาดสปอร์ตโมเดล ดึงดูดด้วย “ความสนุกในการขับขี่”

อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 2560
  • Share :

ผู้ผลิตยานยนต์ส่วนบุคคลต่างมุ่งเสริมไลน์รถสปอร์ตด้วยการสนับสนุนด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ต ซึ่งใช้รถที่ดัดแปลงจากรุ่นตลาดเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อนำผลการแข่งมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนารถสปอร์ตของตน โดยเป็นหนึ่งในแนวทางที่ใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์เป็นที่น่าสนใจ

ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ 2017 ซึ่งจัดถึงวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ Akio Toyoda ประธานกรรมการบริหารบริษัท Toyota ได้เข้าเยี่ยมชมบูธ Subaru และได้ลองจับพวงมาลัยรุ่นพิเศษของรถสปอร์ตซีดาน “WRX STI” ในวันแถลงข่าวรอบสื่อมวลชนในการจัดงานวันที่ 2 ซึ่ง Hiroshi Mori ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาของ Subaru Tecnica International (STI) (เมืองมิตากะ จังหวัดโตเกียว) ให้ข้อมูลว่า “ดูเหมือนว่า Toyota ซึ่งไม่มีรถยนต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ จะให้ความสนใจนำไปใช้ซ้อมแรลลี่”

ปัจจุบัน Subaru ยกให้แบรนด์รถสปอร์ตของ STI เป็นเสาหลักในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งผู้อำนวยการ Mori กล่าวอย่างชัดเจนว่า “หน้าที่หลักของ STI คือการเสริมสร้างความสุข ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “ความสุขและความมั่นใจ” ที่ Subaru จะมอบให้” ซึ่งในงานมอเตอร์โชว์นี้เอง นอกจากรุ่น WRX แล้ว ยังมีผลงานของ STI รุ่นอื่นคือ “BRZ” จัดแสดงด้วย

ส่วนทางด้าน Toyota นั้น ได้ทำการตอกย้ำภาพลักษณ์แบบคนรักรถของประธาน Toyoda และมุ่งพัฒนากีฬามอเตอร์สปอร์ต ด้วยการนำรถที่ใช้แข่งขัน World Rally Championship (WRC) และ FIA World Endurance Championship (WEC) มาจัดแสดงภายในงาน นอกจากนี้ ยังได้นำรถรุ่นต่าง ๆ ใน “GR ซีรี่ย์” รถสปอร์ตรุ่นตลาดซึ่งเป็นรุ่นเปิดตัวมาจัดแสดงคู่กันด้วย

Masakiyo Kojima หัวหน้าฝ่ายพัฒนา GR Motor Sport ของ Toyota กล่าวว่า “รถไม่ใช่แค่อุปกรณ์สำหรับเดินทาง จึงอยากเอาความสนุกในการขับมาใช้ดึงดูด” และเพิ่มเติมว่าหากการมาของ EV ทำให้รถยนต์กลายเป็นสินค้าทั่วไปคงไม่ใช่เรื่องดี และอยากให้เสน่ห์ของรถที่ใช้เครื่องยนต์คงอยู่ต่อไป

สำหรับ Nissan ได้ผลักดันมอเตอร์สปอร์ตที่ใช้ EV ในการเข้าแข่ง โดยประกาศเข้าร่วมการแข่งขัน “Formula E” นับตั้งแต่ปลายปี 2018 เป็นต้นไป ส่วนในด้านของผลิตภัณฑ์นั้น ได้มีการจัดแสดง EV ลีฟ รุ่นรถสปอร์ต “Leaf Nismo Concept” ไว้ภายในงาน

Makoto Yamane ผู้จัดการทั่วไปแผนกการออกแบบยานยนต์ขั้นสูงจาก Nissan ให้ความเห็นว่า “หากพูดถึง EV ก็ย่อมนึกถึงรถสะอาดที่ไม่มีผลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้แปลว่า EV จะไม่มีตื่นเต้นแบบรถสปอร์ต เช่น การเร่งความเร็วแต่อย่างใด”

แม้มอเตอร์สปอร์ตจะเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่จุดโฟกัสนั้นแตกต่างกันไปบ้างตามกลยุทธ์ของแต่ละผู้ผลิตยานยนต์ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า ผลลัพธ์ที่ได้จากการพัฒนารถสปอร์ตนั้นจะส่งผลต่อการพัฒนารถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่างไร