ธุรกิจใช้หุ่นยนต์เพิ่มผลผลิต “เอปสัน”โหมขยายตลาด 5 อุตสาหกรรม

อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 2560
  • Share :
  • 504 Reads   

 “เอปสัน” ลุยทำตลาดหุ่นยนต์แขนกล หลังรัฐบาลหนุนเต็มสูบ เดินหน้าสร้างเครือข่ายพันธมิตรเจาะ 5 อุตสาหกรรม พร้อมเปิด “ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์” เสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีให้ผู้ประกอบการไทย

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้หลายอุตสาหกรรมตื่นตัวนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาเพิ่มผลิตผล และสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ โดยรัฐบาลวางมาตรการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตและบริการในประเทศนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้มากขึ้น อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% ให้ผู้ประกอบการที่ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ขณะที่กระทรวงการคลังยกเว้นภาษีเงินได้ 300% สนับสนุนผู้ประกอบการในการวิจัยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ บริษัทมองเห็นโอกาสในการรุกทำตลาดสินค้ากลุ่มหุ่นยนต์แขนกล จากการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์มานานกว่า 36 ปี และจำหน่ายไปยังกลุ่มประเทศ เช่น อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี รวมถึงในไทยมีใช้ในโรงงานมากว่า 20 ปี มีลูกค้าหลักเป็นบริษัทข้ามชาติซึ่งบริษัทแม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีของเอปสันอยู่แล้ว

“รัฐบาลทำให้วงการเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติตื่นตัวขึ้นมาก เอปสันประเทศไทยจึงเข้ามาดูแลการตลาดและจัดจำหน่ายเต็มตัว โดยจะขยายไปในกลุ่มโรงงานผลิตขนาดเล็กและกลางของคนไทย ควบคู่ไปกับการรักษาฐานลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติ ส่วนมากอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์”

ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมของไทยยังใช้ระบบ manual มีเพียง 15% เริ่มผสมผสานระบบอัตโนมัติรวมกับกระบวนการผลิต แต่มีแนวโน้มเติบโตบริษัทจึงเริ่มนำหุ่นยนต์แขนกลขนาดเล็ก 2 ประเภท คือ SCARA Robot และ 6-Axis Robot เข้ามาทำตลาด เหมาะกับงานประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, โรงงานผลิตเครื่องจักร เป็นต้น

นายยรรยงกล่าวต่อว่า บริษัทกำลังขยายเครือข่ายพันธมิตรทั้งการจำหน่าย บริการหลังการขาย เทรนนิ่ง และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ เพื่อบุกตลาด

สำหรับจุดแข็งของเอปสันในตลาดหุ่นยนต์ คือ ความแม่นยำระดับมิลลิเมตรและเครื่องมีน้ำหนักเบา โดยตั้งทีมดูโดยเฉพาะ โฟกัส 5 อุตสาหกรรม ได้แก่ 1.รถยนต์ 2.อาหาร 3.อิเล็กทรอนิกส์ 4.คอนซูเมอร์โปรดักต์ 5.เมดิคอล เน้นเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดเล็กและกลางเป็นหลัก โดยปีแรกเน้นสร้างการรับรู้

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของเอปสันในประเทศไทยมาจากเครื่องพิมพ์กว่า 50% รองลงมาคือโปรเจ็กเตอร์ ส่วนหุ่นยนต์ไม่ถึง 5% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ล่าสุดจับมือกับสถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) หน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการผลิต พร้อมให้คำปรึกษาและฝึกอบรมเปิด “ศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์เอปสัน” (TGI-EPSON : Epson Robotics Innovation Center)

ด้านนายสมหวัง บุญรักษ์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบัน ไทย-เยอรมัน กล่าวว่า ไทยเป็นอันดับ 1 อาเซียน อันดับ 5 เอเชีย และเป็นอันดับ 8 ของโลกในการใช้หุ่นยนต์ผลิตอัตโนมัติในอุตสาหกรรม แต่ถ้าเทียบกับระดับค่าเฉลี่ยแรงงานในระดับโลกที่ใช้เครื่องเฉลี่ย 69 เครื่องต่อแรงงาน 10,000 คน ไทยใช้ 53 เครื่องต่อแรงงาน 10,000 คนถือว่ายังไม่ผ่านเกณฑ์ แต่ปีนี้ภาครัฐออกมาตรการในการสนับสนุนให้ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมากขึ้น เชื่อว่าจะกระตุ้นตลาดได้ คาดว่าในปี 2559-2563 จะมีการใช้เพิ่มขึ้น 14% ต่อปี และอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มใช้เยอะได้แก่ ยานยนต์ ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และในอนาคตจะเป็นหุ่นยนต์บริการ

“สถาบันเป็นหัวหอกในการทำอุตสาหกรรม 4.0 โดยใช้หุ่นยนต์มาช่วยผลิต เนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จะเป็นศูนย์กลางให้ลูกค้าและนักเรียนนักศึกษาทำเวิร์กช็อป มีกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจถึงโรงงาน มีโรดโชว์กระตุ้นให้ใช้งาน อีก 2-3 ปี จะโตขึ้นได้อีกหลายเท่า”

ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/ict/news-50008