บีโอไอติดปีกนักลงทุนไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจร่วมคาซัคสถาน
บีโอไอติดปีกนักลงทุนไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจร่วมคาซัคสถาน มองเป็นฐานขยายลงทุนโยงสู่ 5 ประเทศในเขตยูเรเซีย จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจต่อเนื่อง ระยะแรกเน้นอุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์ น้ำมันหล่อลื่น และเกษตรแปรรูป
นายชูวงศ์ ตั้งคุณสมบัติ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานร่วมกับ นางสาวราอูชัน เยสบูลาโตวา เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนให้แก่คณะข้าราชการระดับสูงและนักธุรกิจชั้นนำจากประเทศคาซัคสถานกว่า 20 คน ซึ่งมีนายบาตาลอฟ อามันดึค กาบบาโซวิช ผู้ว่าการแห่งรัฐอัลมาตี เป็นผู้นำคณะเยือนประเทศไทยด้วยตนเอง ซึ่งบีโอไอได้เชิญบริษัทไทยในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและสนใจขยายการลงทุนในต่างประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยา ซอฟต์แวร์ น้ำมันหล่อลื่น เกษตรแปรรูป จำนวน 10 บริษัทมาร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจด้วย โดยได้รับความสนใจจากบริษัทขนาดใหญ่ของไทยมาเข้าร่วม เช่น บริษัทไทยออยล์ บริษัทเบทาโกร บริษัทอินเตอร์ไทยฟาร์มาซูติเคิ้ล เป็นต้น
“การจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนกับคาซัคสถานในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการร่วมมือระหว่างบีโอไอกับสถานเอกอัครราชทูตคาซัคสถาน ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2557 โดยการนำคณะนักธุรกิจไทยเข้าไปสำรวจและศึกษาลู่ทางด้านธุรกิจและลงทุนในประเทศคาซัคสถาน ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3 ครั้ง และนำคณะนักวิจัยไปเก็บข้อมูลเชิงลึก 1 ครั้ง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและกลุ่มอุตสาหกรรมไทยที่มีโอกาสไปลงทุน จากนั้นจึงได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักธุรกิจไทยได้สร้างเครือข่ายกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีการวางแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งและเกิดการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม” นายชูวงศ์กล่าว
ประเทศคาซัคสถานอยู่ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Custom Union of Eurasia) ซึ่งมีการเคลื่อนย้ายแรงงานระหว่างกันอย่างเสรี และมีตลาดที่เปิดกว้างระหว่างประเทศสมาชิกที่ ประกอบด้วย อาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน และรัสเซีย ซึ่งมีผู้บริโภครวมกันถึง 180 ล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลในประเทศหรือจีดีพีรวมกันถึง 2.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ประเทศคาซัคสถานนอกจากจะมีศักยภาพด้านพลังงาน ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ยังถือเป็นประเทศที่อยู่ในแนวเส้นทาง One Belt One Road ของจีนที่สามารถเชื่อมต่อกับประเทศในยูเรเซียและรัสเซีย นับเป็นประเทศที่มีที่ตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญประเทศหนึ่ง จึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่คาซัคสถานยังมีการผลิตไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
“สำหรับเมืองอัลมาตี ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของคาซัคสถาน การที่ผู้ว่าการแห่งรัฐอัลมาตีเป็นหัวหน้าคณะเดินทาง สื่อให้เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลคาซัคสถานได้ยกระดับให้ประเทศไทย เป็นคู่พันธมิตรด้านการลงทุนที่มีความสำคัญในภูมิภาคนี้ และที่สำคัญคือ บีโอไอได้แสดงความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการลงทุนระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมงานในรูปแบบต่างๆ ต่อไปในอนาคต” นายชูวงศ์กล่าวเสริม
ผู้สนใจกิจกรรมของกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ สามารถติดตามได้ใน เว็บไซต์ https://toi.boi.go.th