“สภาอุตฯตรัง” ดันรัฐบาลใหม่แก้กฎหมาย-ผังเมือง เอื้อนักลงทุนไทย-เทศ
นายประชา งามรัตนกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเมืองไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย โดยจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในทั่วประเทศ เพื่อให้ได้สภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ในขณะที่ต่างประเทศก็จับตามองการเลือกตั้งของไทย เมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ทำให้นักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติมีความมั่นใจที่จะกลับมาลงทุนในประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งมองว่าภาพรวมในภาคอุตสาหกรรมจะดีขึ้น
“ภาคอุตสาหกรรมคงไม่ตกต่ำไปกว่านี้อีกแล้ว คาดว่าภาคอุตสาหกรรมคงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับปัญหาด้านการลงทุนในจังหวัดตรัง คือ ปัญหาการวางผังเมือง ซึ่งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองต้องมีการต้องมีวางแผนในการวางผังเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการลงทุน หากไม่มีพื้นในการก่อสร้างก็ย่อมส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุน อีกทั้งปัญหาข้อกฎหมายที่มีหลายขั้นตอนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นกลงทุนกังวล เนื่องจากต้องใช้เวลานาน เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักลงทุนชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาลงทุนที่จังหวัดตรังเพิ่มมากขึ้น” นายประชากล่าว
ด้านนายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ โดยเฉพาะราคายางพาราและปาล์มน้ำมัน เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรในภาคใต้ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน ดังนั้นเมื่อราคาพืชดังกล่าวตกต่ำ ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ ส่งผลให้กำลังการซื้อลดลงและกระทบไปถึงผู้ประกอบธุรกิจต่างๆ ที่ขายสินค้าไม่ได้ ก็พากันเดือดร้อนไปตามๆ กัน
“สำหรับการแก้ปัญหานั้น ไม่อยากให้รัฐบาลช่วยด้วยการนำเงินมาแจกประชาชนผ่านโครงการต่างๆ เพราะเป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุด มองว่ารัฐบาลจะต้องสนับสนุนให้มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรมากขึ้น ปัจจุบันเกษตรกรขายน้ำยางสดเป็นหลัก ดังนั้นจะต้องคิดว่าทำอย่างไรถึงจะมีโรงงานมาแปรรูปน้ำยางสด หรือปาล์มน้ำมันในพื้นที่ให้มากขึ้น แล้วนำพืชผลทั้งสองชนิดนี้มาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมให้มากที่สุด เชื่อว่าจะทำให้ราคามีความยั่งยืนและเสถียรภาพมากกว่าที่เป็นอยู่” นายชัยวุฒิกล่าว