GC จ่อปิดดีลพาร์ทเนอร์ยุโรป 2,000 ล้าน มิ.ย.นี้ เตรียมผุดโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติก
“พีทีที โกลบอล เคมิคอล” เตรียมปิดดีลการเจรจาพาร์ทเนอร์ยุโรป โครงการรีไซเคิลเดือน มิ.ย.นี้ ทุ่ม 2,000 ล้านบาท แปลงขยะเป็นเม็ดพลาสติกสู่ภาชนะบรรจุอาหาร พร้อมเดินหน้าแผนการลงทุนใน 3 โครงการปิโตรเคมี กว่า 102,000 ล้านบาท เดินเครื่องผลิตปลายปี 2563 เผยลงทุนที่สหรัฐฯ ยังอยู่ขั้นศึกษาคาดปลายปี 62 สรุปแผน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (CEO) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า ภายในเดือน มิ.ย. นี้จะสรุปการร่วมลงทุนกับพาร์ทเนอร์ยุโรป ที่ GC จะถือหุ้น 70% ในโครงการขยะขวดพลาสติกรีไซเคิล มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท เพื่อเริ่มเดินแผนก่อสร้างระยะเวลา 2 ปี ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ขณะที่แผนการลงทุนขนาดใหญ่ ในปี 2562 GC ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ตามแผนระยะยาว (Long Term Strategic Execution) ขับเคลื่อนโครงการลงทุนในกลุ่มธุรกิจต่างๆ อย่างเต็มที่ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 102,000 ล้านบาท สำหรับ 3โครงการ ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ประกอบด้วย
1.โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration (ORP) เป็นการขยายกำลังการผลิตผ่านการลงทุนใน Naphtha Cracker ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบที่บริษัทฯ มีอยู่แล้วและเป็นการต่อยอดธุรกิจปลายน้ำในอนาคตด้วยกำลังการผลิตเอทิลีน 500,000 ตันและ โพรพิลีน 250,000 ตัน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว ประมาณ 45% คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 มูลค่าโครงการประมาณ 36,000 ล้านบาท
2.โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) ดำเนินการโดย บริษัท GC Oxirane จำกัด (GCO) โดย GC ถือหุ้น 100 % เพื่อผลิตโพรพิลีนออกไซด์ (PO) 200,000 ตันต่อปี ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตโพลีออลส์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 56 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 มูลค่าโครงการประมาณ 32,000 ล้านบาท
3.โครงการโพลีออลส์ (Polyols) ดำเนินการโดย บริษัท GC Polyols จำกัด (GCP) ซึ่ง GC ถือหุ้น 82.1% พาทเนอร์ 2 ราย คือ Sanyo Chemical 14.9 % และ Toyota Tsusho 3 % เพื่อผลิตโพลีเอเทอร์โพลีออลส์ (Polyether Polyols) 130,000 ตันต่อปี โพลิเมอร์โพลีออลส์ (Polymer Polyols) 30,000 ตันต่อปี และพรีมิกซ์ (Premix) 20,000 ตันต่อปี เป็นการต่อยอดผลิตภัณฑ์โพรพิลีนไปสู่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสายโพลียูรีเทน (Polyurethane) ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คืบหน้าไปแล้ว 60 % คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2563 โดยทั้ง 2 โครงการ PO/Polyols มีมูลค่าโครงการประมาณ 34,000 ล้านบาท
สำหรับผลิตภัณฑ์จาก Polyols สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์สมรรถนะสูง (Performance Chemicals) เช่น เบาะรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเล็คทรอนิกส์ ฉนวนกันความร้อน เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในครัวเรือน รองเท้า เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้เน้นส่งออกหลักๆ คือที่อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศยังคงสัดส่วนน้อยมาก
ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกาจะต้องศึกษาอย่างระมัดระวัง คาดว่าปลายปี 2562 จะได้ข้อสรุป