จับตา! บริษัทญี่ปุ่นขยายธุรกิจในจีนลดลงเหลือ 21%

อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 2568

ความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้น จากผลสำรวจขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) พบว่า บริษัทญี่ปุ่นที่มีแผน "ขยาย" ธุรกิจในจีนภายใน 1-2 ปีข้างหน้า อยู่ที่เพียง 21.7% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 2007

บทวิเคราะห์: บริษัทญี่ปุ่นกำลังต่อสู้กับความท้าทาย "ความเสี่ยงจากจีน" ที่เพิ่มขึ้น

Advertisement

ญี่ปุ่น 4 ธันวาคม 2568 - ในรายงานสำรวจ JETRO ปี 2024 ว่าด้วยสถานการณ์บริษัทญี่ปุ่นที่ขยายธุรกิจไปต่างประเทศ จากจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามที่มีผลรวม 7,410 ราย มีถึง 762 บริษัทที่แสดงความระมัดระวังอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการทำธุรกิจในจีน การสำรวจจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน

การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์และผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ สร้างเงามืดให้กับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มภาษีศุลกากรในสินค้านำเข้าจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งอาจกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

แรงกดดันในจีนและโอกาสในตลาดเกิดใหม่

Norihiko Ishiguro ประธาน JETRO กล่าวว่ามีแนวโน้มที่บริษัทจะลดขนาดการดำเนินงานในจีน เนื่องจากคำสั่งซื้อและความต้องการในท้องถิ่นลดลง รวมถึงความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในจีนยังส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง

ในทางกลับกัน 80.3% ของบริษัทที่ตอบแบบสอบถามมีแผนที่จะ "ขยาย" ธุรกิจในอินเดียภายใน 1-2 ปีข้างหน้า และกว่า 60% ตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจในบราซิลและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) สะท้อนถึงความพยายามในการจับโอกาสในตลาดเกิดใหม่

ผลกระทบจากนโยบายของทรัมป์ต่อห่วงโซ่อุปทาน

การชนะเลือกตั้งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ในสหรัฐฯ พร้อมนโยบาย “America First” เช่น การปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้น ทรัมป์แสดงเจตนาที่จะเพิ่มภาษี 10% สำหรับสินค้าจีน และ 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งอาจสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทาน

Ishiguro กล่าวว่า หากมีการบังคับใช้ภาษีเพิ่มเติม อาจจำเป็นต้องปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับสินค้ารถยนต์ในเม็กซิโกและสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องติดตามรายการสินค้าที่อาจได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด และ JETRO พร้อมให้ข้อมูลที่เหมาะสมแก่บริษัทต่าง ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างดีที่สุด