ตลาดรถยนต์ไตรมาส 4/2563 เริ่มกลับมาคึกคัก คาดกลุ่มเอสยูวีไซซ์กลางจะทำยอดได้ใกล้เคียงปีที่แล้ว  21,855 คัน จับตาดูกันต่อไป

“เอ็มจี” สตาร์ตปลั๊กอินไฮบริด ใช้ไทยฮับตัดหน้ามิตซูบิชิ

อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 2563
  • Share :

ตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริดปรอทแตก ค่ายรถแห่รุมทึ้งมั่นใจสปริงบอร์ดสู่รถอีวี “ญี่ปุ่น-จีน” ปะทะเดือดโหมชิงส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเอสยูวี 2 หมื่นคันต่อปี “มิตซูบิชิ” ประเดิมเอาท์แลนเดอร์ “เอ็มจี” ชิงธงจับ SUV HS เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ทั้ง 2 แบรนด์ระบุใช้ไทยเป็นฐานผลิตใหญ่หลังบีโอไอไฟเขียว พร้อมอวดโฉมปลายเดือนนี้ ฟากรถยุโรปประกาศชัดเดินเครื่อง PHEV เต็มสูบ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานบรรยากาศตลาดรถยนต์ไตรมาสสุดท้ายปี 2563 ว่า เริ่มกลับมาคึกคัก หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยเบาบางลง ประกอบกับค่ายรถยนต์มีโปรดักต์ใหม่อวดโฉมต่อเนื่อง ล่าสุดตลาดรถเอสยูวีขนาดกลาง หรือซี-เอสยูวี ที่มีผู้เล่นหลักในตลาดอย่างฮอนด้า ซีอาร์-วี, มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 และมาสด้า ซีเอ็กซ์-8, นิสสัน เอ็กซ์เทรล, โตโยต้า ซี-เอชอาร์, เอ็มจี เอชเอส และแซดเอส ซึ่งมียอดขายรวมกันในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 21,855 คันต่อปี กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

ตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริดเดือด

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แม้ตลาดรถยนต์จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและไวรัสโควิด แต่เชื่อว่าช่วงเวลาที่เหลือของปี กลุ่มเอสยูวีไซซ์กลางน่าจะทำยอดได้ใกล้เคียงปีที่แล้ว โดยเฉพาะเร็ว ๆ นี้จะมีอีก 2 ค่ายใหญ่ ได้แก่ มิตซูบิชิและเอ็มจี พร้อมส่งรถรุ่นใหม่ซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอในกลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ลงตลาด รวมถึงกลุ่มรถยนต์ยุโรปพรีเมี่ยมเซ็กเมนต์ เกือบทุกค่ายเลือกทำตลาดปลั๊ก-อิน ไฮบริดเป็นหลัก ด้วยเหตุผลว่ารถยนต์กลุ่มนี้จะสามารถต่อยอดไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ได้อย่างแน่นอน

เอ็มจี-มิตซูฯชูไทยฮับผลิต

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน ภายใต้โครงการรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อใช้โรงงานผลิตรถยนต์เอ็มจีที่ จ.ชลบุรี ตามแผนงานจะส่งรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดรุ่นแรกจากฐานการผลิตในประเทศไทยออกสู่ตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ส่งเอ็มจี แซดเอส อีวี รถยนต์ไฟฟ้า 100% ทำตลาด และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทย ทำให้มั่นใจว่าเอ็มจี เอชเอส ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งจะทำคลอดในวันที่ 27 ตุลาคมนี้จะได้แรงสนับสนุนจากลูกค้าชาวไทยเช่นกัน

“เราพร้อมอวดโฉมเป็นครั้งแรกในงานฟาสต์ ออโต้ โชว์ ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. ที่ไบเทค บางนาด้วย”

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ยอดขาย 8 เดือนที่ผ่านมากลุ่มรถเอสยูวีทั้งหมดทำได้ 12,262 คัน เอ็มจีเป็นผู้นำ 3,557 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 29% ตามมาด้วยฮอนด้า ซีอาร์-วี 2,567 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21% และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 2,221 คัน มีส่วนแบ่ง 18%

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอภายใต้โครงการผลิตรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มูลค่า 3,130 ล้านบาท มิตซูบิชิได้ขยายโรงพ่นสี ปรับปรุงไลน์ผลิตให้มีความทันสมัย นำระบบออโตเมชั่นเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น และปลายปีนี้พร้อมแนะนำมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน และไทยเป็นประเทศแรกที่ผลิตรถยนต์รุ่นนี้ นอกจากประเทศญี่ปุ่น

“แผนทำตลาดเอาท์แลนเดอร์ในประเทศไทย เปิดตัวช่วงปลายปี พร้อมอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เรากำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีความพร้อมทุกด้านเพื่อทำตลาดรถรุ่นนี้เท่านั้น”

วอลโว่ลั่นขายเฉพาะ PHEV

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความนิยมรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ยังมีอัตราเร่งที่มากขึ้นจากความพร้อมด้านสาธารณูปโภค อาทิ สถานีชาร์จ รวมถึงค่ายพร้อมจากค่ายรถ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์, เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการดังกล่าวทยอยคลอดรถยนต์กลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดค่ายวอลโว่ แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ในบ้านเราแล้ว แต่นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศนโยบายชัดเจนว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป วอลโว่จะไม่ขายรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียว แต่จะยกระดับการจำหน่ายเฉพาะรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดและรถไฟฟ้าเท่านั้น

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ยอดขาย 8 เดือนที่ผ่านมากลุ่มรถเอสยูวีทั้งหมดทำได้ 12,262 คัน เอ็มจีเป็นผู้นำ 3,557 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 29% ตามมาด้วยฮอนด้า ซีอาร์-วี 2,567 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21% และมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 จำนวน 2,221 คัน มีส่วนแบ่ง 18%

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอภายใต้โครงการผลิตรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด มูลค่า 3,130 ล้านบาท มิตซูบิชิได้ขยายโรงพ่นสี ปรับปรุงไลน์ผลิตให้มีความทันสมัย นำระบบออโตเมชั่นเข้ามาเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นและปลายปีนี้พร้อมแนะนำมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ออกสู่ตลาดอย่างแน่นอน และไทยเป็นประเทศแรกที่ผลิตรถยนต์รุ่นนี้ นอกจากประเทศญี่ปุ่น

“แผนทำตลาดเอาท์แลนเดอร์ในประเทศไทย เปิดตัวช่วงปลายปี พร้อมอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป เรากำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีความพร้อมทุกด้านเพื่อทำตลาดรถรุ่นนี้เท่านั้น”

วอลโว่ลั่นขายเฉพาะ PHEV

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ความนิยมรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ยังมีอัตราเร่งที่มากขึ้นจากความพร้อมด้านสาธารณูปโภค อาทิ สถานีชาร์จ รวมถึงความพร้อมจากค่ายรถ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์, เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งขอรับการส่งเสริมการลงทุนในโครงการดังกล่าวทยอยคลอดรถยนต์กลุ่มนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดค่ายวอลโว่ แม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ในบ้านเราแล้ว แต่นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศนโยบายชัดเจนว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป วอลโว่จะไม่ขายรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเดียว แต่จะยกระดับการจำหน่ายเฉพาะรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดและรถไฟฟ้าเท่านั้น