Isuzu Motors เผย พร้อมยกระดับโรงงานไทยด้วยระบบอัตโนมัติ รับ “D-MAX” โมเดลใหม่ เตรียมเสริมกำลังผลิต ตั้งเป้านำระบบอัตโนมัติมาใช้ในโรงงานเต็มรูปแบบ

โดยทางบริษัท ตัดสินใจเสริมกำลังผลิตใน 2 โรงงาน คือ โรงงานสำโรง และโรงงานเกทเวย์ ปรับปรุงโรงงานสำโรงให้มีขีดความสามารถรองรับการผลิตรถกระบะได้หลายโมเดลมากขึ้น ส่วนโรงงานเกทเวย์จะมุ่งไปที่การผลิตรถกระบะ 4 ประตูเป็นหลัก

การตัดสินใจนำโรบอทและระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในโรงงาน Isuzu ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนในระยะยาว สืบเนื่องจากการเล็งเห็นว่า “ค่าแรงในไทยแพงขึ้น”  โดยในเบื้องต้นนั้น ได้นำโรบอทสำหรับงานเชื่อมเข้ามาติดตั้งเพิ่มในโรงงานสำโรงเป็นจำนวนมาก เพื่อเปลี่ยนกระบวนการเชื่อมให้เป็นระบบอัตโนมัติจากเดิม 70% ให้เป็น 100% และเน้นเพิ่มปริมาณการใช้งานโรบอทในงานลำเลียง ส่วนในโรงงานเกทเวย์นั้น ได้เพิ่มระบบอัตโนมัติในกระบวนการเชื่อมจาก 70% เป็น 78% และมีกำหนดการเพิ่มเป็น 100% ในอนาคต

นอกจากเรื่องของค่าแรงแล้ว อีกสาเหตุที่ทางบริษัทเลือกใช้ระบบอัตโนมัติ คือ โมเดลใหม่ของ D-MAX ซึ่งมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นจากโมเดลก่อน ทำให้การกระบวนการผลิตในแต่ละขั้นตอนใช้เวลามากขึ้น ดังนั้น จึงลดกระบวนการที่สามารถใช้เทคโนโลยแทนพนักงานได้อย่างโรบอทและระบบอัตโนมัติ เพื่อนำพนักงานไปใช้ในกระบวนการประกอบชิ้นส่วนแทน ทำให้สายการผลิตมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Isuzu ยังพิจารณานำระบบ IoT เข้ามาใช้เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะเริ่มจากโรงงานที่ญี่ปุ่นก่อน แต่จะยังไม่มีการนำมาใช้ที่โรงงานในไทยในระยะเวลาอันใกล้ อย่างไรก้ตาม ทางบริษัทฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของโรงงานในไทยจะเป็นรากฐานสำคัญของบริษัทต่อไปในอนาคต