โตโยต้าปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 2025 เป็น 3.4 ล้านล้านเยน รับแรงหนุนยอดขายรถไฮบริด
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 ว่าจะปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการรวมสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2026 โดยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 ล้านล้านเยน หนุนโดยยอดขายรถยนต์ไฮบริด (Hybrid Vehicle: HV) ที่แข็งแกร่งทั่วโลก และรายได้จากธุรกิจ Value Chain ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญแรงกดดันจากภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ
- โตโยต้าครึ่งปีแรก 2025 ยอดขายทั่วโลกพุ่ง 5.26 ล้านคัน โต 4.7% จากแรงหนุนรถไฮบริด
| Advertisement | |
โตโยต้าเพิ่มยอดขายและกำไรจากธุรกิจ Value Chain
โตโยต้าระบุว่ายอดขายรวมจะเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 500,000 ล้านเยน เป็น 49 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 2.0% จากปีก่อนหน้า ส่วนกำไรจากการดำเนินงานถูกปรับเพิ่มขึ้น 200,000 ล้านเยน เป็น 3.4 ล้านล้านเยน แม้จะยังลดลง 29.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากยอดขายรถยนต์ไฮบริดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก รวมถึงรายได้จากธุรกิจ Value Chain เช่น การจำหน่ายอะไหล่และบริการตรวจเช็กที่เพิ่มขึ้น
ผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และกลยุทธ์บริหารต้นทุน
โตโยต้าประเมินว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อกำไรจากการดำเนินงานตลอดปีราว 1.45 ล้านล้านเยน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ดำเนินมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การขยายยอดขาย การเพิ่มรายได้จาก VC และการลดต้นทุน ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบได้ราว 900,000 ล้านเยน
Kenta Kon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ยอดขายและกำไรแข็งแกร่งในทุกภูมิภาค รวมถึงจีน ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา”
ยอดผลิตคงเป้าที่ 10 ล้านคันต่อปี พร้อมปรับอัตราแลกเปลี่ยนใหม่
โตโยต้าและเล็กซัสยังคงเป้าหมายการผลิตไว้ที่ 10 ล้านคันสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดมีนาคม 2026 โดยมีการปรับสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ — ดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 146 เยน (ลดลง 1 เยนจากคาดการณ์เดิม) และยูโรที่ 169 เยน (ลดลง 9 เยน)
ครึ่งปีแรกยอดขายโต 5.8% กำไรลดลงจากต้นทุนที่สูงขึ้น
ในช่วงเดือนเมษายน–กันยายน 2025 โตโยต้ามียอดขายรวม 24.63 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานลดลง 18.6% เหลือ 2.056 ล้านล้านเยน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่สูงขึ้น แม้ยอดขายในประเทศและอเมริกาเหนือจะเติบโตจากความนิยมของผลิตภัณฑ์
ยอดขายรวมทั้งกลุ่ม (รวมฮีโน มอเตอร์ส และไดฮัทสุ มอเตอร์) เพิ่มขึ้น 5.0% เป็น 5.64 ล้านคัน โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น 29.8% เป็น 101,000 คัน
บทสรุป
การปรับเพิ่มประมาณการกำไรของโตโยต้าสะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทในการรับมือแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ด้วยพลังจากเทคโนโลยีไฮบริดที่ยังคงเป็นจุดแข็ง และกลยุทธ์การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ทิศทางตลาดโลกยังคงเปิดโอกาสให้โตโยต้ารักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกต่อไป
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- ยอดขายรถยนต์ 2567
- 10 อันดับธุรกิจดาวรุ่ง ปี 2568
- คาร์บอนเครดิต คือ
- ยอดขายมอเตอร์ไซด์ 2567
- “ยานยนต์ไร้คนขับ” กับทิศทางการเติบโตในปี 2022-2045
- ยอดลงทุนปี 67 ทะลุ 1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ยอดจดทะเบียนใหม่ยานยนต์ไฟฟ้า 2567
- สถิติส่งออกกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนไทยปี 2567
- เทคโนโลยีในงานโลจิสติกส์ มีอะไรบ้าง
- 5 เทคนิค “มือใหม่ใช้เครื่อง CNC”
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH

