Nissan ประกาศความพร้อมขาย “รถยนต์ไฟฟ้า 100%” ในยุโรป

อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 2566

ในขณะที่หลายประเทศกำลังถกเถียงกันว่าจะห้ามการขายเครื่องยนต์สันดาปภายในเมื่อใด นิสสันกำลังเร่งดำเนินการตามแผนเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในการใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ในยุโรปภายในปี 2030 โดยรถยนต์นิสสันรุ่นใหม่ทั้งหมดนับจากนี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในยุโรป

วันที่ 25 กันยายน 2023 นิสสันยุโรปประกาศความพร้อมในการขาย Nissan ใหม่ทุกรุ่นในยุโรปจะเป็นไฟฟ้า 100% นับจากนี้ พร้อมกับการเปิดตัว “Concept 20-23” ซึ่งเป็นแนวคิดรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตในเมือง และการทดสอบระบบขับขี่อัตโนมัติใหม่ ท่ามกลางการเฉลิมฉลองวันครบรอบสำคัญที่ศูนย์ออกแบบ Nissan Design Europe (NDE) ในเมืองแพดดิงตัน กรุงลอนดอน

มาโกโตะ อุชิดะ (Makoto Uchida) ประธานและซีอีโอของนิสสัน กล่าวในพฺิธีเฉลิมฉลองฯ ไว้ว่า การใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายคาร์บอนเป็นกลาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืนที่เป็นวิสัยทัศน์ระยะยาวของนิสสัน พร้อมประกาศความมุ่งมั่นที่จะก้าวนำในการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าก่อนกฎระเบียบของยุโรป

Advertisement

เปิดตัว “Concept 20-23” ใหม่ และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติใหม่

ความมุ่งมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่นิสสันยังคงดำเนินโครงการลงทุนในทีมออกแบบ และทีมวิจัยและพัฒนาในยุโรป ซึ่งทั้งสองทีมกำลังฉลองวันครบรอบประวัติศาสตร์ด้วยการพัฒนายานยนต์ล้ำสมัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ที่สตูดิโอ Nissan Design Europe (NDE) ของทีมออกแบบซึ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี โดยเปิดตัว “Concept 20-23” แนวคิดรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตในเมือง นับจากนี้ไป ศูนย์การออกแบบแห่งนี้จะอัปเดตอุปกรณ์และเครื่องมือการออกแบบ เพิ่มจำนวนพนักงาน และส่งเสริมการเปลี่ยนไปใช้ EV ในยุโรป

เช่นเดียวกับที่ศูนย์เทคนิคนิสสันยุโรปซึ่งอยู่ใกล้เคียง ทีมวิจัยและพัฒนาของนิสสันฉลองครบรอบ 35 ปีในปีนี้ กำลังดำเนินการสาธิตเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติที่เรียกว่า “evolveAD”' ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่อยู่อาศัยและถนนในชนบทด้วยเงินลงทุน 40 ล้านยูโร

โมเดลอนาคตและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทำให้ Nissan EV เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

ภายใต้ Nissan Ambition 2030 นิสสันวางแผนที่จะนำรถยนต์ไฟฟ้า 27 รุ่นออกสู่ตลาดภายในปี 2030 ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 19 รุ่นในยุโรป โรงงานซันเดอร์แลนด์ในสหราชอาณาจักรผลิตรถยนต์ไฟฟ้า “Leaf” และ “Qashqai” ซึ่งติดตั้งเทคโนโลยีไฮบริด “e-Power” ตลอดจนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า “Ariya” ที่ผลิตในญี่ปุ่น

ในช่วงเวลานี้ นิสสันยังแนะนำเทคโนโลยีปลอดโคบอลต์เพื่อลดต้นทุนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าลง 65% ภายในปีงบประมาณ 2028 พร้อมตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ All-Solid-State (ASSB) ภายในปีงบประมาณเดียวกัน โดย ASSB นี้จะลดเวลาในการชาร์จลงเหลือหนึ่งในสาม ทำให้รถอีวีของนิสสันมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้มากขึ้น

นิสสันคาดว่า ASSB จะลดต้นทุนของชุดแบตเตอรี่ลงเหลือ 75 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงภายในปีงบประมาณ 2028 และตั้งเป้าที่จะลดราคาลงอีกเป็น 65 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมด้านต้นทุนระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เบนซินในอนาคต

ความคืบหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป

สหภาพยุโรป (EU) มีนโยบายห้ามการขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในในปี 2035 แต่ในเดือนมีนาคมได้เปลี่ยนนโยบายอนุญาตให้ขายเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (e-fuel) และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน ขณะที่รัฐบาลอังกฤษยังประกาศเมื่อไม่นานามานี้ว่าจะเลื่อนการห้ามขายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่จากปี 2030 ออกไปเป็นปี 2035 และยังมีความเคลื่อนไหวในการทบทวนกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่มุ่งเป้าไปที่การลดการปล่อยคาร์บอนในยุโรป

ตลาดรถยนต์ในยุโรปกำลังเข้าสู่ยุคการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ในช่วงห้าปีตั้งแต่ 2018-2022 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 5% ของตลาดรวมเป็น 44% โดยรถยนต์ไฟฟ้า BEV เพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 12% ของตลาดรวม

หนึ่งในสามของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ Nissan ที่ขายได้มากกว่าล้านคันทั่วโลกอยู่ในยุโรป และคิดเป็นส่วนแบ่ง 16% ของยอดขายรถยนต์ทั่วทั้งยุโรป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสัดส่วน 50% และคาดว่าในสามปีข้างหน้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปจะเพิ่มขึ้นไปถึง 98%