Intel ปลดพนักงาน 15% ระงับการจ่ายเงินปันผล

อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 2567

อินเทลประกาศปลดพนักงานมากกว่า 15% หรือประมาณ 17,500 คน และระงับการจ่ายเงินปันผลตั้งแต่ไตรมาสที่สี่เป็นต้นไป เพื่อมุ่งเน้นการฟื้นตัวธุรกิจ Foundry ที่ขาดทุน โดยคาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสสามจะต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากการใช้จ่ายในชิปเซมิคอนดักเตอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิมที่ลดน้อยลง และการมุ่งเน้นไปที่ชิป AI ที่ยังตามหลังคู่แข่ง

Advertisement

สหรัฐฯ 1 สิงหาคม 2567 รอยเตอร์รายงาน บริษัท Intel ผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลก เปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่าจะปลดพนักงานมากกว่า 15% หรือประมาณ 17,500 คน และระงับการจ่ายเงินปันผลตั้งแต่ไตรมาสที่สี่เป็นต้นไป เพื่อมุ่งเน้นการฟื้นตัวธุรกิจการผลิตที่ขาดทุน

นอกจากนี้ ยังได้คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาสที่สามจะต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากการลดลงของการใช้จ่ายในชิปเซมิคอนดักเตอร์สำหรับศูนย์ข้อมูลแบบดั้งเดิม และการมุ่งเน้นไปที่ชิป AI ที่ตามหลังคู่แข่ง

หุ้นของอินเทล ซึ่งตั้งอยู่ในซานตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ร่วงลง 20% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ ทำให้บริษัทเสียมูลค่าตลาดมากกว่า 24 พันล้านดอลลาร์ หุ้นได้ปิดลง 7% ในวันพฤหัสบดี สอดคล้องกับการร่วงลงของหุ้นชิปในสหรัฐฯ หลังจากการคาดการณ์ที่ระมัดระวังจาก Arm Holdings ในวันพุธ

ผลลัพธ์นี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิปในวงกว้าง หุ้นของบริษัท AI ยักษ์ใหญ่ Nvidia และคู่แข่งขนาดเล็กกว่าอย่าง AMD มีการปรับตัวขึ้นหลังเวลาทำการ ซึ่งเน้นย้ำว่าพวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ AI และความเสียเปรียบของอินเทล

อินเทล ซึ่งมีพนักงาน 116,500 คน ณ วันที่ 29 มิถุนายน โดยไม่รวมบางบริษัทย่อย กล่าวว่า การปลดพนักงานส่วนใหญ่จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2567 โดยในเดือนเมษายนอินเทลประกาศจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสที่ 12.5 เซนต์ต่อหุ้น

อินเทลอยู่ในช่วงกลางของแผนการฟื้นตัว โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโปรเซสเซอร์ AI ขั้นสูงและการขยายความสามารถในการผลิตตามคำสั่ง โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นความได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่สูญเสียไปให้กับ TSMC ผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดในโลกของไต้หวัน

การผลักดันเพื่อกระตุ้นธุรกิจ contracting foundry ภายใต้การนำของซีอีโอ Pat Gelsinger ได้เพิ่มต้นทุนของอินเทลและกดดันอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งไม่นานมานี้ ผู้ผลิตชิปได้กล่าวว่าจะลดต้นทุน