รถยนต์ไฟฟ้า และสมาร์ทโฟน ปัจจัยหลักยอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก 2018

อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 2562
  • Share :

The Japan Society Of Industrial Machinery Manufacturers (JSIM) และ Association of Japan Plastics Machinery (JPM) เผย ยอดการสั่งซื้อเครื่องฉีดพลาสติก (Injection Molding Machine) ปี 2018 ปิดที่ 16,318 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2017 2.9% 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตในปี 2018 ถือว่าต่ำ และเป็นการลดลงของอัตราการเติบโตในรอบ 2 ปี เป็นผลจากความต้องการสมาร์ทโฟนที่ลดลง และผลกระทบจากสงครามการค้าจีน - สหรัฐฯ ส่วนยอดสั่งจากอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น แม้จะยังมั่นคง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวมแต่อย่างใด

ส่วนยอดสั่งจากนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็น 70% ของยอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก ปิดที่ 11,149 เครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้า 7.2% ซึ่งมียอดลดลงในเครื่องทุกขนาด ยกเว้นขนาดต่ำกว่า 199 ตันเท่านั้น ส่วนยอดจากในประเทศญี่ปุ่น ปิดที่ 5,169 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.9%

สาเหตุหลักที่ทำให้มีการเติบโตในปี 2018 น้อย เกิดจากการชะลอตัวของสมาร์ทฌฟท ซึ่งยอดสั่งจากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เริ่มลดลงนับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น แม้จะมีอัตราส่วนยอดสั่งที่น้อยกว่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน แต่ยอดสั่งก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง

ส่วนยอดเฉพาะเดือนธันวาคม 2018 นั้น ปิดที่ 1,173 เครื่อง ลดลงจากปีก่อน 19.9%

ผู้ผลิตเครื่องฉีดพลาสติกรายหนึ่ง คาดการณ์ว่ายอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก จะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2019 (เดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายน) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสงครามการค้า ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตื่นตัวลงทุนในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมากเกินไปในช่วงก่อนหน้า ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง คาดการณ์เพิ่มเติมว่า “ความต้องการเครื่องฉีดพลาสติกจะเริ่มฟื้นฟูในช่วงครึ่งปีหลัง”

นอกจากนี้ ความแพร่หลายของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจำเป็นต้องลดน้ำหนักยานยนต์ เพื่อให้ยานยนต์สามารถวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด จึงกล่าวได้ว่า ยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า คือผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ การมาถึงของ 5G ยังส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนเรซิ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกข้อที่สามารถคาดหวังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก 5G ทำให้สมาร์ทโฟนฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว ก็ส่งผลให้ความต้องการเครื่องฉีดพลาสติกเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน