รถยนต์ไฟฟ้า และสมาร์ทโฟน ปัจจัยหลักยอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก 2018
The Japan Society Of Industrial Machinery Manufacturers (JSIM) และ Association of Japan Plastics Machinery (JPM) เผย ยอดการสั่งซื้อเครื่องฉีดพลาสติก (Injection Molding Machine) ปี 2018 ปิดที่ 16,318 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2017 2.9%
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตในปี 2018 ถือว่าต่ำ และเป็นการลดลงของอัตราการเติบโตในรอบ 2 ปี เป็นผลจากความต้องการสมาร์ทโฟนที่ลดลง และผลกระทบจากสงครามการค้าจีน - สหรัฐฯ ส่วนยอดสั่งจากอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น แม้จะยังมั่นคง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวมแต่อย่างใด
ส่วนยอดสั่งจากนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็น 70% ของยอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก ปิดที่ 11,149 เครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้า 7.2% ซึ่งมียอดลดลงในเครื่องทุกขนาด ยกเว้นขนาดต่ำกว่า 199 ตันเท่านั้น ส่วนยอดจากในประเทศญี่ปุ่น ปิดที่ 5,169 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.9%
สาเหตุหลักที่ทำให้มีการเติบโตในปี 2018 น้อย เกิดจากการชะลอตัวของสมาร์ทฌฟท ซึ่งยอดสั่งจากอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน เริ่มลดลงนับตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา
ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น แม้จะมีอัตราส่วนยอดสั่งที่น้อยกว่าอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน แต่ยอดสั่งก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นคง
ส่วนยอดเฉพาะเดือนธันวาคม 2018 นั้น ปิดที่ 1,173 เครื่อง ลดลงจากปีก่อน 19.9%
ผู้ผลิตเครื่องฉีดพลาสติกรายหนึ่ง คาดการณ์ว่ายอดสั่งเครื่องฉีดพลาสติก จะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2019 (เดือนเมษายน ถึงเดือนกันยายน) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากสงครามการค้า ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตื่นตัวลงทุนในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมากเกินไปในช่วงก่อนหน้า ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่ง คาดการณ์เพิ่มเติมว่า “ความต้องการเครื่องฉีดพลาสติกจะเริ่มฟื้นฟูในช่วงครึ่งปีหลัง”
นอกจากนี้ ความแพร่หลายของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจำเป็นต้องลดน้ำหนักยานยนต์ เพื่อให้ยานยนต์สามารถวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพที่สุด จึงกล่าวได้ว่า ยุคแห่งรถยนต์ไฟฟ้า คือผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมพลาสติก นอกจากนี้ การมาถึงของ 5G ยังส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนเรซิ่นเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกข้อที่สามารถคาดหวังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หาก 5G ทำให้สมาร์ทโฟนฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว ก็ส่งผลให้ความต้องการเครื่องฉีดพลาสติกเพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน