เมืองเซินเจิ้นจัดตั้งเมืองนำร่องพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของจีน

อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 2562
  • Share :
  • 1,011 Reads   

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีนกับรัฐบาลเมืองเซินเจิ้น ได้ประกาศให้เมืองเซินเจิ้นเป็นเมืองนำร่องด้านการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ในช่วงการประชุมสุดยอดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของจีน ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 23 – 24 ตุลาคม 2562 ณ นครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิศวกรรมด้านการผลิต AI และส่งเสริมการประยุกต์ใช้ AI ในภาคอุตสาหกรรมของเมืองเซินเจิ้น

การจัดตั้งเมืองนำร่องด้านการพัฒนาเทคโนโลยี AI ดังกล่าว เป็นไปตามแผนปฎิบัติการพัฒนา AI ยุคใหม่ ระยะ 5 ปี (ระหว่างปี 2562 – 2566) ของเมืองเซินเจิ้น ซึ่งได้กำหนดภารกิจหลัก ดังนี้ (1) ส่งเสริมการวิจัยและผลักดันการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม AI ภาคการผลิต (2) ผลักดันการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ได้แก่ รถยนต์อัจฉริยะ หุ่นยนต์อัจฉริยะ โดรน (Drone)  เป็นต้น (3) เพิ่มการประยุกต์ใช้ AI ในด้านต่าง ๆ  ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม เมืองอัจฉริยะ ความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นต้น (4) ผลักดันบริษัทชั้นนำ องค์กร และมหาวิทยาลัยในการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อส่งเสริมการบริการสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐาน (5) ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงด้าน AI  (6) ศึกษาปัญหาและความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเปิดเผยข้อมูล ความปลอดภัยของข้อมูล การคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อพัฒนากฎเกณฑ์ มาตรฐาน และระบบการตรวจสอบและประเมินความเสี่ยง และ (7) การสร้างระบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สำหรับ AI ได้แก่ การพัฒนาเขต AI ภาคอุตสาหกรรม ที่มีเอกลักษณ์ภายใต้นโยบาย “สำนักงานใหญ่ (headquarter base) + ศูนย์วิจัยพัฒนาและบ่มเพาะธุรกิจ (R&D incubation) + ภาคการผลิตชั้นสูง (high-end manufacturing)”
 
ที่ผ่านมา กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจีนได้ประกาศรายชื่อ 6 เมืองนำร่อง AI ของจีน ได้แก่ กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครเทียนจิน เมืองหางโจว เมืองเหอเฝย และเมืองเซินเจิ้น โดยพิจารณาจากความสามารถของภาคการผลิตด้าน AI โดยจะต้องมีมูลค่าการผลิต AI มากกว่า 5,000 ล้านหยวน (708 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมูลค่าการผลิตที่เกี่ยวข้องกับ AI เกินกว่า 20,000 ล้านหยวน (2,832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ จีนมีเป้าหมายจัดตั้งเมืองนำร่องฯ ให้ได้ 20 แห่งภายในปี 2566
 

อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่  : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ www.globthailand.com