สภาหอการค้าฯ ดึงหอการค้าจังหวัด-ต่างประเทศ-สมาคมการค้า ร่วมทัพกรรมการชุดใหม่ ปี 62-63 เตรียมเวิร์กชอปใหญ่ 26-27 เมษายนนี้ ระดมสมองชงวาระร้อนส่งไม้ต่อรัฐบาลใหม่

นายกลินท์ สารสิน  ประธานกรรมการหอการค้าไทยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยผลการประชุมใหญ่สามัญสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยครั้งที่ 52 เมื่อวันที่ 24 เมษายน ว่าวาระสำคัญในการพิจารณาในการประชุมกรรมการบริหารสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยครั้งนี้ ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารหอการค้าชุดใหม่รวม 60 คน เพื่อดำรงตำแหน่งวาระปี 2562-2563

“ ครั้งนี้โดยเป็นครั้งแรกที่มีการดึงตัวแทนจากหอการค้าจังหวัด 15 คน หอการค้าต่างประเทศ 15 คน สมาคมการค้า 15 คน เข้าร่วมกับกรรมการหอการค้าไทย 15 คน โดยหลังจากนี้ทางคณะกรรมการจะมีการจัดประชุมเวิร์กชอปขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 เมษายน เพื่อชี้แจงไดเรกชันการทำงาน ระดมสมอง และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ในการกำหนดนโยบายการทำงานของคณะกรรมการชุดใหม่ ”

สำหรับทิศทางในการทำงานของคณะกรรมการ จะมีการสานต่อการทำงาน 3 Value Chain ในด้านการค้าการลงทุนการเกษตร และอาหารการท่องเที่ยวและการบริการ

โดยจะมีการผลักดันให้นำดิจิตอลเทคโนโลยีและนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์มาใช้ควบคู่กับแนวคิดไทยเท่ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

โดยผลการระดมความเห็นจะแบ่งการผลักดันนโยบายเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ภาคเอกชนสามารถดำเนินการได้เองในทันที อย่างเช่น การจัดทำดิจิตอลแพลตฟอร์มของหอการค้าเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและสิทธิประโยชน์ต่างๆ การจัดทำไทยแลนด์ ดิจิตอลทัวริซึ่ม (Thailand Digital Tourism Platform)

และนโยบายในส่วนที่ต้องการผลักดันให้ภาครัฐเร่งดำเนินการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อให้เกิดความง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business ) ตลอดจนการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในด้านการค้าการลงทุน ผลักดันระบบ E-Government

และในส่วนที่เอกชนจะร่วมมือกับภาครัฐ เช่น การสานต่อโครงการทัวร์ริมโขงในพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดขายเชื่อมโยงกับการทำงานของหอการค้าจังหวัดและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันและกระตุ้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว

“ จากการหารือกับทางภาคเอกชนสมาชิกหอการค้าต่างประเทศให้ความสนใจว่าไทยจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อไหร่และใครจะมาเป็นรัฐบาล และจะอยู่ได้นานเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลขอให้เดินหน้านโยบายด้านเศรษฐกิจซึ่งทางหอการค้าได้มีจุดยืนในการทำงานร่วมกันว่าจะมุ่ง 1) ต่อต้านคอร์รัปชั่น 2) เดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติ และ 3) นโยบายส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ตลอดจน 4) การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ”

สำหรับหอการค้า 15 ประเทศที่มาร่วมเป็นคณะกรรมการสภาประกอบด้วย หอการค้าจากอินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย และเดนมาร์ก