เกาะแผนธุรกิจ ค่ายรถญี่ปุ่น 2019 (2)

อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 2562
  • Share :

Isuzu และ Hino 2 ค่ายรถกระบะญี่ปุ่นเผย มีความเห็นในปีงบประมาณ 2019 ไม่ตรงกัน โดย Isuzu คาดการณ์ว่ายอดขายในปีงบประมาณนี้จะลดลง ในขณะที่ Hino คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากนโยบายควบคุมมลพิษในไทย และญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงิน และราคาวัสดุที่สูงขึ้น รวมถึงการลงทุนล่วงหน้าซึ่งทั้ง 2 ค่ายให้ความสำคัญ ทำให้แน่นอนว่า ในปีงบประมาณนี้ ทั้ง 2 ค่ายจะต้องเสริมศักยภาพในการทำกำไรให้มากขึ้นอย่างแน่นอน 

Isuzu คาดการณ์ว่า ยอดขายทั่วโลกจะลดลงเล็กน้อย โดยจะมียอดรถบรรทุกขนาดเล็กเพิ่มขึ้นในอินโดนีเซีย แต่รถกระบะ ซึ่งมากกว่าครึ่งของยอดขายทั้งหมดทั่วโลกจะลดลงในปีงบประมาณนี้ ซึ่งการเตรียมพร้อมประกาศรถกระบะโมเดลใหม่ จะยิ่งทำให้เกิดการชะลอตัวของยอดขายมากขึ้น โดยประธาน Masanori Katayama คาดการณ์ว่า “ตลาดไทยที่เป็นตลาดหลักของ Isuzu กำลังจะเข้าสู่จุดอิ่มตัว ซึ่งจะทำให้ยอดขายของเราหลังจากนี้ไม่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างที่ผ่านมา” 

ส่วนทางด้าน Hino นั้น เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากทั้งรัฐบาลไทย และรัฐบาลอินโดนีเซีย ทำให้คาดว่ายอดขายในปีงบประมาณนี้จะเพิ่มขึ้น จึงมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดอเมริกาเหนือเพิ่มเติม และคาดว่าจะทำลายสถิติยอดขายได้ในปีงบประมาณนี้

อย่างไรก็ตาม คาดว่านโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในญี่ปุ่น จะส่งผลให้ยอดขายรถบรรทุกขนาดเล็กในประเทศลดลงจากปีก่อน ซึ่ง Isuzu คาดการณืว่า บริษัทตนที่แต่เดิมมีส่วนแบ่งในตลาดรถบรรทุกขนาดเล็กสูงที่สุดในประเทศ จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ส่วนด้านผลกำไรนั้น ที่ผ่านมา ทั้ง 2 บริษัทให้ความสำคัญกับการปรับลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม ราคาวัสดุที่สูงขึ้น และความผันผวนของค่าเงินยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลมาก โดยคาดว่าการแข็งค่าของเงินบาท จะทำให้ Isuzu ทำกำไรในไทยได้ลดลง ส่วน Hino นั้น Mr. Shinichi Sato เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารอาวุโส ชี้แจงว่า จะให้ความสำคัญกับราคาวัสดุ และการสนับสนุนลูกค้า เพื่อทำกำไร

นอกจากนี้ ทั้ง 2 บริษัท ยังจำเป้นต้องลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีตามแนวคิด CASE เพิ่มอีกด้วย

Isuzu วางแผนลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเยน ซึ่ง 30% ของเงินทุนส่วนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยี CASE ซึ่งล่าสุดได้ประกาศจับมือกับ Cummins ผู้ผลิตเครื่องยนต์รายใหญ่ค่ายสหรัฐแล้ว ส่วน Hino จะลงทุนราว 7 พันล้านเยน ในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ และเทคโนโลยี IT

Mr. Yoshio Shimo ประธานบริษัท Hino กล่าวแสดงความกังวลต่อสงครามการค้าจีน - สหรัฐ ว่า “ในอนาคต หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอีก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน” ส่วน Mr. Masanori Katayama ประะานบริษัท Isuzu  เอง ก็แสดงความเห็นใกล้เคียงกันไว้ว่า “สงครามการค้า จะมีผลกระทบโดยอ้อมต่อประเทศกำลังพัฒนา ทำให้จำเป็นต้องเฝ้าระวังการผันผวนของค่าเงินในประเทศเหล่านั้นด้วย”