ยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต ไปกับ The Latest Technical Trend Seminar จาก Factory Max

อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 2561
  • Share :

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน Factory Max ร่วมกับ NS Tool และ Sodick จัด “The Latest Technical Trend Seminar” งานสัมมนาว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า และ Smart Car เพื่อแนะนำเทคโนโลยีและเทรนด์ล่าสุดให้แก่ผู้ประกอบการไทย  รองรับการผลิตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในอนาคต โดยมีคุณสุรพงษ์ ตั้งธราธร กรรมการผู้จัดการบริษัท Factory Max เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา

คุณสุรพงษ์ กล่าวว่า “การจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เราต้องการให้นักอุตสาหกรรมไทยพัฒนาตัวเองไปสู่องค์ความรู้ใหม่ ๆ ในไลน์การผลิตทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1. เครื่องมือการผลิต 2.เครื่องจักร และ 3. องค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงที่ได้ให้ความสำคัญและให้เกียรติมาเป็นวิทยากร เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ให้แก่นักอุตสาหกรรมและผู้ที่สนใจ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”  

งานสัมมนาในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Taratorn Pro Center ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่จะจัดแสดงเทคโนโลยีเพื่อการผลิตสมัยใหม่ มีการสาธิตการทำงานของเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชิ้นงานตัวอย่างของซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ชั้นนำจากต่างประเทศ ทั้งจากญี่ปุ่น เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยแบรนด์ชั้นนำที่นำเทคโนโลยีมาร่วมจัดแสดง อาทิเช่น Erowa, Carl Zeiss, NS Tool, BAHCO, Sodick, Ingersoll เป็นต้น

ภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักและเป็นกันเอง มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร ผู้จัดการโรงงาน หัวหน้างาน วิศวกร ฝ่ายซ่อมบำรุง และฝ่ายผลิต พร้อมอัปเดตเทรนด์การผลิตจากการเข้าร่วมฟังบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ การพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้จากกลุ่มผู้ประกอบการ นับว่าเป็นการจัดงานที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และยังตอกย้ำให้เห็นถึงความกล้าของผู้ประกอบการไทยและนักอุตสาหกรรมที่จะร่วมเดินหน้าสู่ Industry 4.0

การสัมมนาในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยแต่ละช่วงจะมีการให้ความรู้เฉพาะด้านจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับช่วงแรกนั้น Dr. Toshitaka Matsuoka ผู้เชี่ยวชาญพิเศษจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้มาเผยแพร่องค์รวมรู้ อัปเดตเทรนด์การผลิตที่จะสามารถประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมไทยได้ ภายใต้หัวข้อ “Latest trend of super precision, micro milling know-how, and manufacturing of information age for production smartification computer parts” โดยเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีเครื่องจักรและแอปพลิเคชันการผลิตที่มาใหม่ในปีนี้ เพื่อเชื่อมต่อการทำงานของ IoT, M Connect และการประยุกต์ใช้ Automation เข้าด้วยกันในไลน์การผลิต  ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ สามารถทำการผลิตได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีผู้ที่สนใจมากมายเข้าร่วมฟังบรรยาย สอบถาม และขอคำแนะนำการใช้กระบวนการดังกล่าวอย่างคึกคัก สะท้อนถึงการตอบรับและการให้ความสนใจของผู้ร่วมสัมมนาซึ่งพร้อมจะนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้อย่างแท้จริง

ช่วงที่สอง เป็นการอัปเดตเทรนด์ล่าสุดของเทคโนโลยี “เครื่องมือกัด” จาก Mr. Yuji Goto, NS Tool บริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตดอกกัด (Endmill) ขนาดเล็ก และได้คิดค้นพัฒนาจนสามารถกัดวัสดุที่เปราะและความแข็งสูงได้สำเร็จ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมแม่พิมพ์ทั่วโลก โดยในครั้งนี้ NS Tool มาให้ความรู้ในหัวข้อ “Milling Applications for super precision and micro machining”  พร้อมนำเสนอโซลูชันสำหรับงานกัดที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Finishing Tool CBN End Mill, Super Finishing Tool PCD End mill และกระบวนการทำ Mirror surface technology ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของ NS Tool ที่ทั่วโลกให้การยอมรับในกระบวนการที่สามารถกัดผิวชิ้นงานแม่พิมพ์ได้เรียบเงาระดับผิวกระจก ซึ่งสามารถทำผิวงานได้ถึงระดับนาโนเมตรเลยทีเดียว 

และช่วงสุดท้ายเป็นการบรรยายจาก Mr. Yutaka Ohto ในหัวข้อ “High-quality surface Finish with Linear Motor Drive” ที่มานำเสนอเครื่องจักรประสิทธิภาพสูงจาก Sodick อย่าง AZ275nano โดยอธิบายการทำงานของเครื่องด้วยโปรแกรมเฉพาะของ Sodick “Motion Expert-AI” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องจักร และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) พร้อมยกตัวอย่างการใช้งานให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เข้าใจถึงศักยภาพและการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งาน

การสัมมนาในครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการชาวไทยและนักอุตสาหกรรม โดยส่วนใหญ่เห็นว่า การเข้าร่วมกิจกรรมของ Factory Max ในครั้งนี้ มีประโยชน์และสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ นี้ประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตได้จริง และสามารถทำให้เห็นความสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการผลิตอยู่เสมอ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการ ก้าวทันความเปลี่ยนแปลง และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้  Mr.Yuji  Goto ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผู้ประกอบการชาวไทยบางคน อาจจะไม่กล้าที่จะปรับตัวเพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตนั้น มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีในประเทศไทยเท่านั้น แต่ประเทศอื่นทั่วโลกก็เปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน  สิ่งสำคัญก็คือ  ผู้ประกอบการต้องกล้าที่จะปลี่ยนแปลง เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด  อีกทั้งในสายตาของผู้ประกอบการต่างชาติ ก็มองว่าแรงงานชาวไทยเป็นแรงงานที่ยอดเยี่ยม สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี เช่น เหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ส่งผลให้โรงงานในไทยหลายแห่ง ต้องเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่แทบทั้งหมด แต่ผู้ประกอบการและแรงงานไทยก็ยังปรับตัวได้ จนสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างก้าวกระโดดในตอนนั้น ในเมื่อเราเคยทำได้มาก่อน เราก็สามารถทำได้อีกครั้งเช่นเดียวกัน”