ฮอนด้า โมบิลิตี้ ชูธง "เครื่องยนต์ขนาดเล็ก"
ฮอนด้า โมบิลิตี้ ชูธง "เครื่องยนต์ขนาดเล็ก"
สัมภาษณ์
ปี 2561 ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จ สำหรับค่ายรถยนต์นั่ง "ฮอนด้า ออโตโมบิล" ภายใต้การนำทัพของผู้บริหารชาวไทย สไตล์ถึงลูกถึงคน "พิทักษ์ พฤทธิสาริกร"ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)จำกัด และทีมงานคุณภาพที่สามารถพา "ฮอนด้า" ผ่านปีหมาป่ามาได้อย่างสวยงาม
แม้ว่าในรอบปีจะไม่มีอาวุธใหม่ในมือต่อกรกับคู่เเข่งในตลาด แต่ฮอนด้าสามารถสร้างความสำเร็จด้วยการทุบสถิติเป้าหมายที่ตัวเองตั้งไว้ จากการทำตลาดของรถยนต์โฉมปัจจุบันที่มีในพอร์ต แถมยังรักษาตำแหน่งการขายเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น อะไร... ทำให้ฮอนด้าประสบความสำเร็จไปติดตามกัน
Q : ไร้อาวุธใหม่แต่ขายทะลุเป้า
สำหรับในปี 2562 ที่ผ่านมานั้น ฮอนด้าเราสามารถปิดยอดขายทั้งปีได้ที่ 128,290 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ เดิมเราประเมินว่าจะขายที่ 125,000 คันเท่านั้นเอง
จะเห็นว่าปีที่ผ่านมา ฮอนด้าไม่มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อทำตลาด เราทำตลาดกับรถโฉมปัจจุบัน ขณะที่คู่แข่งมีการส่งรุ่นใหม่เข้ามาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก แต่เราก็อยู่ในสภาพที่มีโปรดักต์ค่อนข้างน้อย
ปีที่ผ่านมา ตลาดโตขึ้นประมาณ 20% เนื่องจากหลายค่ายรถมีรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเยอะ ทำให้ตลาดโตผิดปกติ ประกอบกับเงื่อนไขทางการเงิน ในช่วงที่ผ่านมามีการนำเสนอเงื่อนไขต่าง ๆ ออกมา "มากเป็นพิเศษ"
ทำให้ปัจจัย 2 ตัวนี้มาช่วยกระตุ้นตลาด ทำให้มีการเติบโตอย่างที่เห็น คือ ประมาณ 1.04-1.05 ล้านคัน ซึ่งดูจากโมเมนตัมที่ผ่านมาเราไม่ได้มีรถใหม่ แต่เราเติบโตน้อยกว่าตลาด ถือว่าเราทำได้ดีมาก ในสภาพที่มีโปรดักต์ใหม่น้อยในปีที่ผ่านมาซึ่งความจริงเรารู้แผนงานของเราอยู่แล้ว ภายในของเราทำงานกันหนักเพราะเราต้องทำงานแบบพึ่งพารถรุ่นใหม่ไม่ได้ ซึ่งเป็นโจทย์ภายใน
ของฮอนด้า เราจึงกลับไปเรื่องเบสิกของการขายมองไปยังสิ่งที่ควรกระทำใน "งานขาย-บริการ" จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ปีที่ผ่านมา ฮอนด้าเราสามารถทำยอดได้ "สูงกว่าเป้า" ที่วางไว้ทั้งปี
และเราถือว่าเราทำได้ดี ซึ่งเป็นปีที่การทำงานของพนักงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนจำหน่ายก็ทำงานกันเต็มที่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งแบบนี้มันดี...เพราะว่าในช่วงปีที่เรามีโปรดักต์ใหม่ ๆ เยอะ ด้วยความร้อนแรงของโปรดักต์ ทำให้ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเยอะ เป้ามันก็สามารถไปได้แต่ปีที่เราไม่มีโปรดักต์ใหม่ นั่นหมายความว่า เป็นปีที่เราจะมา "สร้าง" และดูการทำงานที่เป็นเบสิก แล้วทำตรงนั้นให้มีความแข็งแรง และเมื่อถึงวันที่เรามีโปรดักต์มา เราก็จะยิ่งแข็งแรงมากขึ้น นี่คือเรื่องที่เรามองดังนั้นปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ท้าทาย...มาก ๆ และโดยส่วนตัวผมถือว่าเป็นปีที่ผ่านไปได้ด้วยดี
Q : ประเมินการเติบโตของปีนี้
จากปีที่ผ่านมา ฮอนด้าเราตั้งเป้าจะต้องเติบโตขึ้น จากพื้นฐานที่เราได้สร้างมานั้นทำให้ฮอนด้าเข้มแข็งขึ้นสร้างฐานให้แข็งแรงและเราก็จะเติบโตขึ้นสำหรับปีนี้คาดว่าตลาดรถยนต์โดยรวมน่าจะโตที่ระดับ 3-5% ซึ่งใกล้เคียงกับ GDP ที่จะเติบโตในปีนี้ แต่ถามว่าตัวเลขจะเติบโต 4-5% จากที่เราเห็นหรือไม่ ?คำตอบคือ...ไม่ใช่ เนื่องจากตัวเลขที่เห็นนั้นถือว่าเกินกว่าศักยภาพของมันไป จะคล้าย ๆ กับเมื่อตอนโครงการรถยนต์คันแรก ที่ตัวเลขจะถูกปัดมาอยู่ในปีถัดไปที่ไม่ใช่ศักยภาพของตลาดที่แท้จริง ปีนี้เราอาจจะเห็นการเติบโตของตลาดอย่างเก่ง ๆ ก็น่าจะเท่า ๆ กับปี 2561 ที่ผ่านมา แต่ถ้าเท่า ๆ กับปีก่อนก็ถือว่าตลาดในปีนี้ดีมาก ๆ
Q : มีความเชื่อว่าสถาบันการเงินจะหยุดขับเคลื่อนตลาดอย่างแรง
แน่นอนปีที่ผ่านมาเงื่อนไขทางการเงินถือว่าเยอะไปนิดหนึ่ง เกินศักยภาพจังหวะการซื้อของผู้คน จากภาพรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เริ่มจะส่งสถานการณ์ที่ไม่ดี ถ้าดูจากภาพรวมของตลาด อย่างไฟแนนซ์ที่กระโจนเข้าไปที่ผ่านมา ก็เริ่มพบว่ามีความเสี่ยงสูง การใช้เงื่อนไขทางการเงินแบบสุดขั้ว...มันก็อาจจะส่งผลเสียได้ แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าฮอนด้ายังดีอยู่
ดังนั้น ปีนี้เชื่อว่าการใช้เงื่อนไขทางการเงินแบบสุดขั้ว... หรือการกระตุ้นแบบผิดธรรมชาติก็น่าจะหายไป และพอหายไป มันก็จะกลายเป็นปัจจัยเฉพาะของปีที่แล้ว และปีนี้ถ้าเลือกใช้ยาแรงแบบนี้ต่อไป...เราก็ได้แต่มองดูด้วยความเป็นห่วง และต้องติดตามผลที่จะเกิดขึ้น เพราะมันไม่สร้างและไม่ทำให้ตลาดรถยนต์มีการเติบโตแบบแข็งแรง
Q : มีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังผลิตหรือไม่
ตอนนี้โรงงานฮอนด้าทั้ง 2 แห่ง คือ ปราจีนบุรีและพระนครศรีอยุธยานั้น เรามีกำลังผลิตรวมกันที่ 240,000 คัน อย่างโรงงานปราจีนฯจะใช้ประกอบรถขนาดตัวถังกลางและเล็ก เช่น ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค และมีบางรุ่นกลาง ๆ ที่มียอดขายเยอะอย่างซิตี้ ก็ยืดหยุ่นสามารถผลิตได้ทั้ง 2 ที่ส่วนรถตัวถังใหญ่ เราจะผลิตที่พระนครศรีอยุธยาอย่าง แอคคอร์ดตอนนี้โรงงานถือว่าค่อนข้างเต็มแล้ว และคงต้องมีการขยายการลงทุน แต่นั่นหมายความว่ายังเป็นแผนงานในอนาคตที่ยังไม่สามารถบอกได้ เราต้องรอดูความต้องการของตลาด โดยเฉพาะปัจจัยในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยนที่จะกระทบตลาดส่งออกถ้าให้ตอบตรง...ความเป็นไปได้มันมีที่ฮอนด้าจะลงทุนขยายโรงงานการผลิต
Q : ทำไมมีความเชื่อว่าลูกค้าจะชอบเครื่องยนต์เล็ก
ถ้าย้อนหลัง 5-10 ปี นั้นจะเป็นโจทย์ที่ยากมาก แต่วันนี้เข้าใจว่าการรับรู้ของลูกค้าเยอะมาก อย่างบางค่ายมีการเปลี่ยนการรับรู้สินค้า (เครื่องยนต์) ของลูกค้าได้ และทำได้ดี การยึดติดอยู่กับซีซีนั้น ฮอนด้าเชื่อว่าทำไม่ยาก ถ้าของคุณดีจริง...แม้กระทั่งสรรพสามิตก็ไม่เอาซีซีมาเกี่ยวข้องแล้ว โดยไปดูที่ค่าการปล่อยไอเสียแล้ว รถขนาดกลางและขนาดเล็กของฮอนด้าไม่ใช่ว่าได้เปรียบเพราะซีซี แต่ได้เปรียบในส่วนของ "ผล" ของมันดีกว่า ซีซีน้อยแล้วกำลังน้อย ซีซีมากย่อมได้เปรียบ แต่สิ่งที่ฮอนด้าทำอยู่คือ ซีซีน้อย แต่กำลังดีกว่า... ไม่ใช่เล็กแล้วไม่มีแรง เหมือนฮอนด้าแอคคอร์ดของเรา 2.5 ลิตร กับ 2.4 ลิตร เครื่องยนต์ตัวใหม่ 2.0 ลิตร ตัวนี้แรงดีกว่า และประหยัดกว่า 2.4 ลิตร แล้วทำไมเราจะไม่ใช้
"ฮอนด้ามีทิศทางที่ลดขนาดของเครื่องยนต์นั้นเป็นทิศทางที่เราจะไป และเครื่องยนต์ขนาดเล็กของฮอนด้าจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน"
และนี่คือ...ทิศทางของฮอนด้า ที่เป็นโมบิลิตี้ หรือแรงขับเคลื่อนไปในปีนี้