"มิตซูบิชิ"ลุยตั้งรง.แบตเตอรี่ เท1.1หมื่นล้านปูพรมอีวี-ปลั๊กอินไฮบริด
"มิตซูบิชิ" เท 1.1 หมื่นล้าน ปูพรมโรงงานแบตเตอรี่พร้อมลุยปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถอีวี มั่นใจยื่นรายละเอียดบีโอไอภายในเดือนธันวาคมนี้ ลั่นคนไทยได้ใช้รถไฟฟ้าเร็วขึ้น
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวภายหลัง นายโอซามุ มาสุโกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบว่า มิตซูบิชิจะยื่นขอส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน รวมถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้า คือ รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (plug-in hybrid electric vehicle : PHEV) มูลค่าการลงทุน 5 พันล้านบาท และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (battery electric vehicle :BEV) และโรงงานแบตเตอรี่ 6 พันล้านบาทโดยจะยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ภายในเดือนธันวาคมปีนี้
ก่อนหน้านี้ นายมาสุโกะยืนยันว่า มิตซูบิชิผลิตรถอีวีมาตั้งแต่ปี 2009 และรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งถือว่ามิตซูบิชิมีเทคโนโลยีและความพร้อมสำหรับรถยนต์ทั้ง 2 ประเภท ส่วนกลุ่มรถอีวีคงต้องมองกันอีกทีว่า ประเทศไทยจะมีความพร้อมแค่ไหน
"มิตซูบิชิมีรถอีวีเกือบ 10 ปีมาแล้ว ถือเป็นรายแรกของโลก และขณะนั้นค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ไม่มีใครคาดคิดว่ารถอีวีจะได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมยานยนต์ วันนี้ทั้งยุโรปและจีนให้ความสนใจและตื่นตัวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นทุกคนต่างมองไปที่รถอีวีและปลั๊ก-อินไฮบริด ที่ส่วนใหญ่จะมองไปที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่มิตซูบิชิเรามองมายังกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาด้วย และเราก็กำลังศึกษาและสำรวจในประเทศทั้งไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และมิตซูบิชิเชื่อว่าต้นทุนของแบตเตอรี่รถอีวีเกิดขึ้นได้จริงและน่าจะเกิดได้เร็วขึ้นด้วยสำหรับประเทศไทย"
นอกจากนี้ มิตซูบิชิยังมีเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติและเทคโนโลยีคอนเน็กเต็ด ทำให้เราเชื่อว่ารถยนต์ในอนาคตจะมีความยากกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ในปัจจุบัน แต่จะช้าหรือเร็วนั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ และเชื่อว่าประเทศไทยจะได้เห็นรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทเร็วกว่าที่คาดไว้อย่างแน่นอน