064-เครื่องฟอกอากาศ-แอลจี-อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

“แอลจี” ทุ่ม 100 ล้าน ขนทัพเครื่องฟอกอากาศลุยทั้งตลาดครัวเรือน-องค์กร พร้อมจัดเต็มการตลาด หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 เซกเมนต์พรีเมี่ยมใน 2 ปี

อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 2562
  • Share :
  • 714 Reads   

“แอลจี” ทุ่มงบ 100 ล้านบาท ลุยเครื่องฟอกอากาศเต็มสูบ มุ่งเจาะเซกเมนต์พรีเมี่ยมราคา 2 หมื่นอัพ เปิดฉากขยายไลน์สินค้าทั้งรุ่นพกพา-ไซต์ใหญ่หวังเหมาทั้งลูกค้าครอบครัว-องค์กร พร้อมระดมการตลาด สื่อสารผ่านออนไลน์ อัพเกรดพื้นที่ขายย้ำจุดขายฟังก์ชั่นไอโอที-กรองฝุ่น PM 1.0 มั่นใจปี 2563 ยอดขายแตะ 500 ล้านบาท พร้อมขึ้นแท่นเบอร์ 1 เครื่องฟอกอากาศพรีเมี่ยมใน 2 ปี

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์​เครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉายภาพตลาดเครื่องฟอกอากาศในปีหน้าว่า ความตื่นตัวเรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 ​ยังคงกระตุ้นดีมานด์อย่างต่อเนื่อง โดยปี 2563 คาดว่าตลาดจะมีมูลค่าถึง 2,500 ล้านบาท จาก 1,700 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ หรือเท่ากับเติบโตประมาณ 50% โดยผู้บริโภคมีความต้องการหลากหลายขึ้น หนึ่งในเทรนด์ที่เห็นชัดคือ ความต้องการเครื่องฟอกแบบพกพา และฟังก์ชั่นการเช็คค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ และเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศ

อย่างไรก็ตามตลาดมีการแข่งขันดุเดือดขึ้น โดยเฉพาะเซกเมนต์แมส-กลาง ราคาประมาณ 7500 บาทที่แข่งขันราคากันดุเดือดจนทำให้ปีหน้าแบรนด์สัญชาติเอเชียหลายรายอาจต้องถอนตัวจากตลาด

สำหรับบริษัทจะโฟกัสเซกเมนต์บน-พรีเมี่ยม ราคา 2 หมื่นบาทขึ้นไป ด้วยจุดขายทั้งด้านฟังกชั่นของสินค้า อาทิ การกรองฝุ่นละเอียดถึง PM 1.0, การเชื่อมต่อกับแอปฯ และแพลตฟอร์มไอโอที ThinkQ ที่บริษัทพัฒนาขึ้น เพื่อควบคุมการทำงานและเช็คค่าฝุ่น

พร้อมขยายไลน์อัพสินค้าจาก 2 รุ่นเป็น 4 รุ่น ให้ครอบคลุมทั้งการใช้งานในครัวเรือน การพกพา ไปจนถึงการใช้งานในอาคารสำนักงาน โรงพยาบาลและโรงเรียน เช่น รุ่นเพียวริแคร์มินิ ขนาดเท่าขวดน้ำ และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ รุ่น ซิงเกิ้ลคอมเมอร์เชียล โฟร์เวย์คาสเซ็ต ซึ่งเมื่อเริ่มขายในเดือน ก.พ. จะเป็นเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แบรนด์แรกในไทยที่มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศ นอกจากนี้จะปรับกลยุทธ์ของสินค้าเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศในปีหน้าด้วย

พร้อมกันนี้จะทุ่มงบฯ 100 ล้านบาทสำหรับทำการตลาดสินค้ากลุ่มนี้ เตรียมเดินหน้าเพิ่มจุดจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศในครอบคลุมทุกช่องทางที่มี จากเดิมวางขายเพียงในเชนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเพาเวอร์มอลล์ และเพาเวอร์บายเท่านั้น รวมถึงอัพเกรดพื้นที่ขายแบบจัดเต็มเพื่อดึงดูดความสนใจและโชว์ฟังก์ชั่น เช่น เครื่องสร้างควัน เป็นต้น

ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท แบ่งเป็น 200 ล้านจากเครื่องฟอกอากาศและอีก 300 ล้านจากเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชั่นฟอกอากาศ เติบโตกว่า 10 เท่าจากปี 2562 เนื่องจากไลน์อัพสินค้าที่เพิ่มขึ้น พร้อมวางเป้าเป็นอันดับ 1 ในตลาดเครื่องฟอกอากาศพรีเมี่ยมใน 2 ปี จากปัจจุบันอยู่ในท็อป 3