นายไมเคิล เคมเปอร์ รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการลูกค้ารถบรรทุกในภูมิภาคเอเชียของ มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัคแอนด์บัส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า มิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค แอนด์ บัส คอร์ปอเรชั่น (หรือ MFTBC) ภายใต้แบรนด์เดมเลอร์ ทรัคส์ ได้ประกาศการก่อสร้างของโรงงานประกอบรถบรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศแห่งใหม่ในประเทศไทย 

 
เนื่องจากนโยบายของบริษัทที่ต้องการบริหารงานรถบรรทุกไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งแบรนด์  ฟูโซ่ และเมอร์เซเดส-เบนซ์  จะทำการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารงาน ซึ่งดีซีวีทีจะเข้ามาบริหารธุรกิจรถบัสและรถบรรทุกของเมอร์เซเดส –เบนซ์ เพื่อสร้างองค์กรเฉพาะทางสำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เท่านั้น และสามารถดูแลลูกค้ารถบรรทุกได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยในพื้นที่และการเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักในยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจสู่ตลาดทั่วโลก
ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของดีซีวีที ทำให้บริษัทมั่นใจและตัดสินใจลงทุนมูลค่า 450 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานประกอบรถบรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศแห่งใหม่สำหรับตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ

ด้านนายซาช่า ริคาเน็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารดีซีวีที  เปิดเผยว่า  บริษัทขอประกาศเหตุการณ์สำคัญ2 เหตุ การณ์ที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้าในประเทศไทย คือ

1. การลงทุนก่อสร้างโรงงานประกอบรถบรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศสำหรับตลาดในประเทศไทย
2. ความมุ่งมุ่นที่จะเดินหน้ารวบรวมธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ฟูโซ่และแบรนด์ เมอร์เซเดส เบนซ์ภายใต้ชื่อดีซีวีที ตามกลยุทธ์ทางการตลาดของเดมเลอร์ทั่วโลกว่า“กลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เหนือกว่าแก่ลูกค้าในท้องถิ่น”

สำหรับโรงงานประกอบรถบรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศ โดยจะตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นหนึ่งในการเติบโตทางเศรษกิจที่สำคัญของประเทศไทยในภูมิภาคนี้ โดยในช่วงระยะแรกโรงงานประกอบรถ บรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศแห่งนี้จะประกอบรถบรรทุกขนาดใหญ่ฟูโซ่ รุ่น FJ 2528C ที่ได้เปิดตัวไปในประเทศไทยในช่วงต้นปีนี้ที่ผ่านมาและได้ถูกออกแบบเพื่อตอบสนองการเติบโตอย่างเนื่องของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย

โรงงานประกอบรถบรรทุกโดยใช้ชิ้นส่วนในประเทศแห่งนี้มีแผนจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงเดือนตุลาคม ในปี พ.ศ. 2562 และเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาสที่สองในปี 2563