“แกร็บ” เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday หวังยกระดับความปลอดภัยแก่ผู้ใช้

อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 2561
  • Share :
  • 447 Reads   

แกร็บเปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday แนะนำฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ อาทิ ระบบสอดส่องเพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและการรายงานพฤติกรรมการขับขี่เพื่อให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทราบ เพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ และวางแผนเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มเป็นสองเท่าในปลายปี 2562

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า เทคโนโลยี Grab’s Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมและเปิดตัวเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์คู่ค้า พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการขนส่ง รวมไปถึงการทำธุรกรรมจับจ่ายบนแอปพลิเคชั่นแกร็บ ได้แก่

1.การยืนยันตัวตนผู้ร่วมทาง ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

2.เพิ่มฟีเจอร์แชร์มายไรด์ (Share My Ride) และปุ่มแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Emergency SOS) ให้มีในแอปฯของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ด้วย จากปัจจุบันมีเฉพาะในแอปฯสำหรับผู้โดยสาร

3.ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitoring System) จะส่งข้อความเตือนและแนะนำให้พัก หากพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่มีการรับงานติดต่อกันนานเกินระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ยังจะได้รับรายงานพฤติกรรมการขับขี่จากระบบเทเลมาติกส์ (Telematics) ซึ่งบอกถึงพฤติกรรมการเร่งความเร็ว การเบรก และการวิเคราะห์อื่นๆ ที่จะมีมาเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดตัวระบบเทเลมาติกส์ มีเหตุที่เกิดจากการขับรถเร็วลดลง 50%

บริษัทฯ ได้เตรียมขยายเพิ่มการลงทุนด้านความปลอดภัยเป็นสองเท่าในปีหน้า การเปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของแกร็บในระดับภูมิภาค โดยแกร็บถือเป็นผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่นเพียงรายเดียวที่ลงทุนในความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ การจัดให้มีศูนย์ให้บริการคอลเซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์การปกปิดเบอร์มือถือผู้ใช้ และการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ตลอดจนการยืนยันแอคเคาท์ผู้ใช้อย่างเข้มงวด ด้วยเหตุนี้แกร็บจึงสามารถลดจำนวนเหตุไม่พึงประสงค์ที่เกิดบนแพลตฟอร์มได้มากถึง 40% นับจากไตรมาสสามในปี 2560

“ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับสองของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 24,000 คนในแต่ละปี ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่แกร็บให้ความใส่ใจและต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไข”

อ่านต่อ 
GO-JEK เผย บทเรียนจากความล้มเหลวของ Uber ในเอเชีย
เมื่อ “แกร็บ” ปะทะ “เก็ท” จุดยืนที่แตกต่างบนสมรภูมิเดือด
Grab รุกธุรกิจโลจิติกส์ออนดีมานด์เปิดตัวบริการเดลิเวอรี่