5G ก้าวหน้า สู่หุ่นยนต์ควบคุมทางไกล
5G เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ใกล้ความจริงยิ่งขึ้น
NTT DoCoMo ร่วม NS Solutions นำเทคโนโลยี 5G มาใช้พัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ “5G FACTORYⅢ” เพื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่มนุษย์ไม่สามารถทำงานได้
โดยจุดเด่นของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นนี้ คือระบบกล้องที่หัวของหุ่น และ Head Mount Display (HMD) สำหรับผู้ควบคุม ซึ่งมีคุณสมบัติในการถ่ายทอดภาพจากกล้องให้ผู้ควบคุมมองเห็นได้แบบ 3 มิติ และควบคุมต่อผ่านถุงมือซึ่งติดตั้งเซ็นเซอร์ไว้ตามนิ้ว ทำให้หุ่นยนต์ขยับมือและแขนตามท่าทางของผู้สวม
นอกจากนี้ ที่มือของหุ่นยังติดตั้งเซ็นเซอร์สำหรับถ่ายทอดสัมผัส เช่น น้ำหนักของวัตถุที่หยิบจับ เพื่อให้ผู้ควบคุมรู้สึกเหมือนตัวเองทำงานอยู่ในสถานที่จริง
ด้วยเหตุนี้เอง หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นนี้จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการทำงานในสถานที่อันตราย หรือสถานที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ในท่อส่งพลังงาน ซึ่ง Mr. Takehiro Nakamura หัวหน้าศูนย์วิจัยนวัตกรรม 5G จาก NTT DoCoMo กล่าวอย่างภูมิใจว่า “เทคโนโลยี 5G ทำให้การควบคุมหุ่นยนต์ตัวนี้เหมือนกับผู้ควบคุมย้ายตัวเองไปไว้ในหุ่นยนต์ก็ไม่ปาน”
คาดการณ์ว่า เทคโนโลยี 5G จะเข้าสู่ตลาดญีปุ่นได้จริงในปี 2020 และด้วยคุณสมบัติการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า 4GLTE ถึง 100 เท่า ทำให้สามารถกำจัด Time Lage ในการควบคุมหุ่นยนต์ได้เกือบทั้งหมด นอกจากนี้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ยังจะสามารถนำไปต่อยอดในงานกู้ภัยได้อีกด้วย