ในหลายปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีการนำ โรบอท หรือ หุ่นยนต์ มาใช้งาน เพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไลน์การผลิตชิ้นงานต่าง ๆ เป็นสำคัญ แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้องนั้นได้รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้โรบอทในภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทและทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการมุ่งเน้นเพียงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแล้ว ยังมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนของภาคแรงงาน เพิ่มความสามารถทางกระบวนการผลิตให้เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างความได้เปรียบของธุรกิจด้วยการผลิตและการบริหารจัดการที่รวดเร็ว แม่นยำ และต้นทุนที่คุ้มค่า ผู้นำตลาดโรบอทอย่าง ABB จึงได้เล็งเห็นถึงดีมานด์ที่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ และระบบหุ่นยนต์ (Robotics) ทำงานร่วมกับระบบ IoT, AI  และ 5G ที่จะเปลี่ยนภาพการทำงานในโรงงานและไลน์การผลิต จนกลายเป็นโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory ในที่สุด

เทคโนโลยี IoT, AI, และ 5G ประสานเข้ากันบน “โรบอท ABB”

IoT: Internet of Things เทคโนโลยีที่ทุกสิ่งอย่างสามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, AI: Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีที่มีความสามารถในการจำลองแบบจากความฉลาดของมนุษย์ การเรียนรู้ตรรกะ การใช้เหตุผล การรับรู้ ความคิดสร้างสรรค์, และ 5G เทคโนโลยีที่จะทำให้การรับส่งข้อมูลปริมาณมากด้วยความเร็วสูง (Ultra High-Speed Large Volume) สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายขนาดใหญ่ (Massive Connection) และความล่าช้าต่ำ (Low Latency) ทั้ง 3 เทคโนโลยีสำคัญจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอุตสาหกรรมการผลิตเป็นอย่างมาก ซึ่ง ABB ได้ก้าวไปอีกขั้นในการนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาใช้ประสานกับโรบอทของ ABB แล้ว ทำให้ตอบโจทย์ธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องวัดผลได้ ช่วยให้สามารถดูผลลัพธ์จริงที่ได้มาจากการทำงานของโรบอท ว่าทำงานด้วยความเร็วเท่าไหร่ ได้ชิ้นงานออกมากี่ชิ้น ผลผลิตที่ได้เป็นผลผลิตที่ดีและเสียเท่าไหร่ มอเตอร์ของโรบอทแต่ละแกนทำงานด้วยประสิทธิภาพเท่าไหร่ โดยข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกส่งมาในรูปของตัวเลขผ่านทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เพื่อใช้วิเคราะห์และประเมินผล นำสู่การวางแผนธุรกิจ การลงทุน การผลิต รวมถึงการบำรุงรักษา จึงทำให้การทำงานของอุตสาหกรรมการผลิตยุคใหม่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ โดย ABB ได้นำเทคโนโลยี IoT, AI, และ 5G ประสานเข้ากันบนโรบอทของ ABB ในหลายด้าน เช่น

• โรบอท ABB รุ่น SCARA มีคำสั่งพิเศษซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI เรียกว่า “MOVE PNP (Pick and Place)” โดยคำสั่ง MOVE PNP จะทำการคำนวณเส้นทางการเคลื่อนที่ “ที่เร็วที่สุด” ทำให้ระยะเวลาในการทำงานลดลง 10%
• นอกจากนี้ โรบอท ABB ทุกรุ่นยังมีโปรโตคอล (Protocol) ที่ช่วยรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เรียกว่า “Web Service” ทำให้สามารถสั่งงานระยะไกลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ รวมถึงสามารถเขียนโปรแกรมและลงโปรแกรมผ่านอินเทอร์เน็ตได้ นั่นก็คือการควบคุมการทำงานของโรบอทแบบ online ที่จะทำให้เราสามารถควบคุมและสั่งงานโรบอทได้ทุกที่ทุกเวลา
• ไม่เพียงเท่านั้น เพราะว่า Controller ของ ABB สามารถเปิดรับข้อมูลเหมือนกับว่ามี SDC ให้กับ Developer สามารถนำไปพัฒนาต่อเพื่อใช้เองได้ ABB ได้นำระบบ 5G มาประยุกต์ใช้จนเกิด “Connected Service” ที่ทำให้สามารถทราบสถานะของหุ่นยนต์แบบ Real Time ผ่าน Daq board ในเว็บไซต์ได้ 

ABB ได้ออกแบบโรบอทที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้ใช้งานในอุตสาหกรรม โดยโรบอท ABB จะเป็นแขนกลที่สามารถปรับเปลี่ยนกริปเปอร์ที่หัวได้หลายอย่าง ด้วยเพียงโรบอท ABB 1 รุ่น สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในการประกอบ (Assembly), การจัดเรียง (Palletizing), รวมถึงการบีบอัดอัตโนมัติ (Press automation) เป็นต้น ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้วเราจะดู Pay Load และระยะ Reach ของโรบอทเป็นสำคัญ โดย Application หลักที่อยู่ด้านล่างนี้จะยกตัวอย่างรุ่นของโรบอทที่เหมาะจะนำไปใช้ในแต่ละ Application ดังนี้

วันนี้โรบอท ABB ได้ถูกติดตั้งแล้วมากกว่า 400,000 ตัวทั่วโลก จากการที่ ABB เป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและระบบหุ่นยนต์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งตอบโจทย์แอปพลิเคชันที่ครอบคลุมการใช้งานสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, พลาสติก, การผลิตโลหะ, โรงหล่อ, พลังงานแสงอาทิตย์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไม้, เครื่องมือกล, อุตสาหกรรมยา อาหารและเครื่องดื่ม โดยนำเสนอโซลูชันที่มุ่งเน้นให้ผู้ผลิตปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ดังนั้น คุณจึงต้องมีโรบอท ABB ไว้ใช้ในโรงงาน ติดต่อเรา คลิกส่งอีเมล์ หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.abb.co.th