IBM ประกาศพัฒนา AI สำหรับ 9 อุตสาหกรรม

อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 2561
  • Share :
  • 655 Reads   

IBM ประกาศพัฒนา “Watson” AI สำหรับธุรกิจ เพื่อ 9 อุตสาหกรรม  โดย Mr. David Kenny รองประธาน IBM Cognitive Solutions กล่าวแสดงความเห็นว่า “การไหลเวียนของข้อมูลในปัจจุบันมีปริมาณมากขึ้น และอาจจะมากจนมนุษย์ไม่อาจบริหารจัดการข้อมูลในทุก ๆ วันได้ แต่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) สามารถทำสิ่งนี้ได้”  IBM จึงมุ่งพัฒนา AI ที่ออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถใช้เป็นเครื่องมือในอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะเชื่อมโยงไปสู่การมอบศักยภาพใหม่ในการทำงานที่ดีให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น
 
นอกจากนี้ IBM ยังรายงานว่า 82% ของธุรกิจที่เข้าทำการวิจัย มีแนวโน้มในการพิจารณาเพื่อนำ AI มาใช้งานอีกด้วย
 
โดยรายละเอียดของ AI ในแต่ละอุตสาหกรรมที่ IBM พัฒนาขึ้น มีดังนี้
 
อุตสาหกรรมการผลิต
 
ออกแบบ AI ขึ้นเพื่อลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจสอบสภาพชิ้นงาน และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี IoT ในการทำนายการเสื่อมสภาพของเครื่องจักร การสูญเสียพลังงาน และคุณภาพสินค้าล่วงหน้า เพื่อช่วยลด Downtime ลง ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่การลดปัจจัยที่เป็นปัญหาในการผลิต เชื่อมโยงสู่ความสามารถทางการแข่งขันที่สูงขึ้น
 
อุตสาหกรรมยานยนต์
 
AI จะเข้ามีบทบาทสำคัญในขั้นตอนการพัฒนาสินค้า เนื่องจาก 47% ของโครงการพัฒนา ประสบความล้มเหลวจากการขาดความแม่นยำ ซึ่ง AI จะมีส่วนช่วยในการประมวลผลจากข้อกำหนดที่ต้องการอย่างแม่นยำ และสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสินค้าให้สูงมากยิ่งขึ้น
 
อุตสาหกรรมซัพพลายเชน
 
เนื่องจากโครงสร้างการซัพพลายในแต่ละบริษัทนั้นแตกต่างกันออกไป AI จึงจะถูกใช้ในการประมวลผลข้อมูลด้านต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ การจราจร และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นภาพรวม จนสามารถบริหารจัดการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
 
อุตสาหกรรมก่อสร้าง
 
AI และ IoT จะเข้าช่วยในการบริหารจัดการข้อมูล ซึ่งข้อมูลที่ได้ สามารถนำไปใช้ต่อยอดในการบริหารค่าใช้จ้านด้านพลังงานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงจำลองรูปแบบการเข้าใช้ตัวอาคาร เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถออกแบบอาคารให้สามารถรองรับความต้องการที่แตกต่างกันไปได้ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ เช่นสภาพอากาศ ข้อมูลการดำเนินงานที่ผ่านมา และอื่น ๆ รวมถึงข้อมูลจาก Third Party เพื่อให้การลงทุนมีประสิทธิภาพสูงสุด
 
อุตสาหกรรมการเกษตร
 
AI จะทำงานร่วมกับระบบ IoT ในการติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การทำงานของรถแทรกเตอร์ ระบบน้ำ ภาพถ่ายดาวเทียม และอื่น ๆ เพื่อจำลองภาพฟาร์มผ่านแอปพลิเคชันที่เข้าใจง่าย ช่วยให้การเกษตรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การทำนายปริมาณศัตรูพืช และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสามารถฉีดยาฆ่าแมลงได้ตรงจุด พยากรณ์อากาศเพื่อช่วยในการประหยัดน้ำ หรือทำบันทึกข้อมูลการวิ่งของรถแทรกเตอร์
 
อุตสาหกรรมบริการ
 
AI จะทำหน้าที่แสดงข้อมูลลูกค้าให้กับผู้ให้บริการแบบเรียลไทม์ ลดเวลาที่ต้องใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงสามารถนำเสนอแนวทางให้กับผู้ใช้ เพื่อให้แม้แต่พนักงานบรรจุใหม่ก็สามารถให้บริการได้ดีเหมือนผู้มีประสบการณ์
 
อุตสาหกรรมทรัพยากรมนุษย์
 
สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ การพิจารณาเอกสารของผู้เข้าสมัครงานจำนวนมากให้มีประสิทธิภาพนั้นเป็นเรื่องยาก หากไม่ใช้เวลานานเกินไป ก็ต้องใช้เวลาน้อยเสียจนข้อมูลตกหล่นได้ง่าย ซึ่ง AI จะทำหน้าที่ในการคัดกรองผู้สมัครจากข้อมูลที่ระบุไว้ แล้วรายงานผลด้วยข้อมูลที่ไม่มีการนำอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาปะปะในการตัดสินใจจ้าง เพื่อให้ได้ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับความต้องการสูงสุด รวมถึงช่วยยกระดับการทำงานในองค์กร จากการคัดเลือกผู้สมัครที่มีประวัติเหมาะสมกันและกัน
 
อุตสาหกรรมการตลาด
 
ใช้ AI ลดระยะเวลาการทำงาน ด้วยการนำขั้นตอนงานที่ซับซ้อนไปให้ AI ทำแทนผ่านคำสั่งเสียง รวมถึงสนับสนุนในการช่วยวิเคราะห์ตลาด และผลลัพธ์ของแคมเปญ เพื่อใช้ในการทำตลาดซ้ำด้วยรูปแบบการตลาดที่เหมาะสมกับเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการศึกษาโดย IBM ในระดับโลก พบว่า Chief Marketing Officer (CMO) กว่า 34% แสดงความต้องการนำ AI มาใช้ในการทำ Retargeting
 
อุตสาหกรรมการโฆษณา
 
AI จะมีส่วนในการประมวลผลข้อมูลที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การออกอากาศโฆษณามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การยิงโฆษณาเข้าไปในแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ ด้วยการวิเคราะห์เทรนด์ และแนวโน้มความต้องการของกลุ่มลูกค้า แล้วเลือกยิงโฆษณาให้กับลูกค้าที่มีความสนใจตรงกัน เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการร้านค้า ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ ซึ่ง Subway รายงานว่า การนำ AI เช่นนี้ไปใช้ ช่วยเพิ่มยอดลูกค้าได้ถึง 31% และลดต้นทุนในการทำแคมเปญโฆษณาได้มากถึง 53%