อุตสาหกรรมดาวรุ่ง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อัปเดตล่าสุด 8 ก.ค. 2562
  • Share :

เมื่อความต้องการภายในประเทศลดลง อุตสาหกรรมการผลิต จึงต้องพึ่งพาการส่งออกแทน ซึ่งแนวโน้มปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กระตุ้นให้ความต้องการภายในประเทศลดน้อยลงมากยิ่งขึ้น ทำให้ตลาดมีขนาดเล็กลง ซึ่งแม้ว่าหลายบริษัท จะมุ่งตอบสนองด้วยการผลิตสินค้า และบริการสำหรับผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แม้การเกิดจะลดลง การมุ่งตอบสนองต่อความต้องการผู้สูงอายุเพียงอย่างเดียวย่อมไม่อาจเพียงพอ การส่งออก จึงทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก จึงมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคต ประเทศที่มีอัตราการเกิดลดลง จะต้องพึ่งพาการส่งออก มากกว่าการขายสินค้าในประเทศก็เป็นได้ ในบทความนี้จะฉายภาพแห่งโอกาสในสภาวะที่การดำเนินไปของธุรกิจทวีความท้าทายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการกระดาษ การเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการเติบโตของ System Integrator

กรณีศึกษา ความต้องการกระดาษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในขณะที่ความต้องการภายในประเทศลดลง แต่หากมองไปยังประเทศกำลังพัฒนา จะพบว่า ประเทศเหล่านี้เองกลับมีความต้องการผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่นับวันจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแม้จะมีอัตราการเกิดลดลง แต่ด้วยความล่าช้าในการเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์จากกระดาษ เช่น ลังกระดาษ ผ้าอ้อม และอื่นๆ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เอง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นภูมิภาคที่ได้รับการจับตามองในการเข้าลงทุนจากอุตสาหกรรมกระดาษ เพื่อสร้างฐานการผลิต หรือเข้าซื้อกิจการในขณะนี้

Oji Paper ผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของญี่ปุ่น รายงานว่า ความต้องการลังกระดาษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคนี้ ยังนำมาซึ่งกำลังซื้อที่สูงขึ้น โดยมีจีนเป็นอีกประเทศที่โดดเด่น นอกจากนี้ ความต้องการผ้าอ้อมกระดาษสำหรับเด็กในภูมิภาคนี้เองก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย Mr. Masatoshi Kaku ประธานบริษัท Oji Paper กล่าวแสดงความเห็นว่า ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเติบโตได้อีกมาก

นอกจากลังกระดาษ และผ้าอ้อมแล้ว ความต้องการกระดาษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังเพิ่มขึ้นมากจากหลายอุตสาหกรรม โดย Mr. Toru Nozawa ประธานบริษัท Nippon Paper Industries ชี้แจงว่า “มีความต้องการกระดาษอีกมาก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ พลังงาน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากไม้อื่นๆ ”

อสังหาริมทรัพย์ อีกตลาดที่น่าสนใจ

อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีความคึกคึกในประเทศกำลังพัฒนา และเป็นอีกอุตสาหกรรมที่ธุรกิจในประเทศพัฒนาแล้วเลือกลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงประเทศที่มีเศรษฐกิจดี ยกตัวอย่างเช่น การเข้าไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ค หรือลอนดอน ซึ่งได้รับความสนใจจากธุรกิจรายใหญ่

สาเหตุที่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ได้รับความนิยมนั้น สืบเนื่องจากอัตราการเกิดที่ลดลง และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ความต้องการอาคารสำนักงานลดลง และความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น และธุรกิจที่จะได้เปรียบ คือธุรกิจที่สามารถนำองค์ความรู้จากการวางโครงสร้างพื้นฐาน การออกแบบอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้

ปัจจุบัน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจจากยุโรป และสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้เอง การสร้างความโดดเด่นในด้านอื่นจึงเป็นสิ่งจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของญี่ปุ่น ซึ่ง Mitsui Fudosan เลือกจะเข้าพัฒนาอาคารเก่า เช่น คลังสินค้า บ้านพัก อาคารสำนักงาน และร้านอาหาร ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยแทนที่

สำหรับภูมิภาคที่อสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตเป็นพิเศษก็คือเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่มีการประกาศเปิดตัวโครงการต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นช่องทางการค้าสำหรับผู้ต้องการส่งออก 


SI เตรียมโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Systems Integrator (SI) เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์จากอัตราการเกิดที่ลดลง โดยปัจจุบันในประเทศที่พัฒนาแล้ว ธุรกิจ SI มักประสบปัญหาในการเติบโต หรือการสร้างธุรกิจใหม่ แม้ว่าจะมีความต้องการสูง เนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ จะเป็นการลงทุนในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคที่กำลังพัฒนา หรือภูมิภาคที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ยุโรป จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้เอง ที่มีศักยภาพจะกลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ SI ในระยะยาว

NTT Data รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2005 จนถึงไตรมาสแรกปี 2019 กำไรกว่าครึ่งของบริษัทมาจากการลงทุนธุรกิจ SI ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และประเทศที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีตลาดที่โดดเด่นคือสเปน อิตาลี ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งเป็นผลจากความพยายามเข้าสู่ยุคดิจิทัลของกลุ่มประเทศเหล่านี้

ในขณะเดียวกัน Mr. Satoshi Kikuchi ประธานบริษัท Itochu Techno-Solutions Corporation กล่าวแสดงความเห็นว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาเหนือ เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ SI สูงมาก

NS Solutions เป็นอีกรายที่เข้าลงทุนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา โดยล่าสุด ได้เข้าลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ เพื่อครองส่วนแบ่งในตลาดเอเชียตวันออกเฉียงใต้เอาไว้ ซึ่งแม้ปัจจุบันจะมีอัตราส่วนรายได้คิดเป็นเพียง 2% ของบริษัท แต่คาดการณ์ว่า จะเพิ่มเป็น 6% ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้