ค่ายรถเร่งขึ้นไลน์ผลิตปลั๊ก-อินไฮบริด “ยุโรป-ญี่ปุ่น-จีน” นำเข้าอีวีสร้างดีมานด์
รถอีวีทยอยสตาร์ตหลังบีโอไอไฟเขียวลงทุนกว่า 10 ราย นำร่องด้วยกลุ่มรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ก่อนส่งรถกลุ่มแบตเตอรี่ไฟฟ้า 100% ลงตลาดตามค่ายยุโรปสบช่องชิงนำเข้าทั้งคันสร้างดีมานด์ก่อนเปิดไลน์คลอดโปรดักต์ในประเทศ
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โครงการส่งเสริมกิจการรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 แบบ ซึ่งรัฐบาลผลักดันมาตั้งแต่ปี 2560 ขณะนี้บีโอไอได้ประกาศอนุมัติการลงทุนไปเป็นจำนวนมาก และจะทยอยประกาศไปเรื่อย ๆ ให้ครบทุกกลุ่ม อาทิ รถไฮบริด ประกอบด้วย โตโยต้า, ฮอนด้า, นิสสัน และมาสด้า
บีอีวีอนุมัติแล้วกว่า 10 ราย
ขณะที่กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด ได้รับอนุมัติอีกจำนวน 6 ราย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู, เมอร์เซเดส-เบนซ์, ฮอนด้า, โตโยต้า, นิสสัน, มิตซูบิชิ, เอ็มจี ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ตอนนี้มีมากกว่า 10 ราย ได้แก่ ค่ายยุโรป เมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู และออดี้ ค่ายรถญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ, นิสสัน, ฟอมม์, เอ็มจี และกลุ่มพลังงานมหานคร
บิ๊กโตโยต้าลั่น 3 ปีได้ใช้แน่
นายมิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยต้าเพิ่งได้รับอนุมัติส่งเสริมกิจการรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี ตามเงื่อนไขบีโอไอ หรือราวปลายปี 2566 รถยนต์ทั้ง 2 ประเภทยี่ห้อโตโยต้าจะคลอดสู่ตลาดประเทศไทย โดยจะมีการลงทุนเพิ่มอีกราว ๆ 2,000 ล้านบาท เพื่อต่อยอดโครงการผลิตรถยนต์ไฮบริด ซึ่งโตโยต้าเทเม็ดเงินไปแล้วราว 2 หมื่นล้านบาท โดยมั่นใจว่าถึงเวลานั้น ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะมีมากขึ้น และโครงสร้างพื้นฐานทั้งแบตเตอรี่ สถานีชาร์จไฟฟ้าจะครอบคลุมทั้งหมด
มิตซูฯ-เอ็มจีลุยปลั๊ก-อิน ปีหน้า
นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มิตซูบิชิใช้เงินกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ราว 3,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมจัดหาซัพพลายเออร์ เพื่อเตรียมผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จากโรงงานมิตซูบิชิ แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ออกสู่ตลาดประเทศไทยราว ๆ เดือนมกราคม 2564
“มิตซูบิชิเป็นเจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในญี่ปุ่นเรามีไอมีฟ ซึ่งได้การตอบรับดีมาก เพียงแต่บ้านเราระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในการรองรับรถยนต์ไฟฟ้ายังมีข้อจำกัด มิตซูบิชิจึงเลือกชิงธงปลั๊ก-อิน ไฮบริดก่อน ซึ่งสามารถวิ่งในระยะทางไกลกว่า”
เช่นเดียวกับ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่า รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถอีวี แบรนด์เอ็มจี ขณะนี้ทางฝั่งโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนกำลังเซตรายละเอียด คาดว่าภายในปีนี้ หรือไม่เกินต้นปี 2564 น่าจะได้เห็นรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด จากเอ็มจี ที่ผลิตจากโรงงานระยอง ออกสู่ตลาดประเทศไทยอย่างแน่นอน
ค่ายยุโรปปรับแผนลุยอีวี
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายในเดือนมีนาคม 2563 นี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จะส่งรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง และต่อยอดด้วยการเปิดไลน์ผลิตในปี 2564
“ก่อนหน้านี้ เบนซ์ประกาศพับแผนรถยนต์อีคิวซีทั้งหมด เนื่องจากมองไม่เห็นความคุ้มค่าในเชิงธุรกิจ แต่วันนี้เราต้องรุกไปข้างหน้า สร้างดีมานด์ให้ตลาดกระตุ้นการรับรู้ของลูกค้าก่อน”
นอกจากนี้ ในส่วนโรงงานผลิตเเบตเตอรี่ซึ่งร่วมทุนกับทางพันธมิตร ธนบุรีประกอบยนต์ คาดว่าจะพร้อมผลิตได้ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เพื่อป้อนรถยนต์กลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ไม่ต่างจากแบรนด์มินิ นายปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า ได้เปิดตลาดกลุ่มรถอีวีนำเข้า มินิ คูเปอร์ เอสอี รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกจากมินิมาทำตลาด โดยในช่วงแรกนี้มีจำนวนจำกัดเพียง 25 คัน ราคาคันละ 2,290,000 บาท รวมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI standard ครอบคลุมการบำรุงรักษานาน 3 ปี/60,000 กิโลเมตร และรับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งน่าจะได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ขณะที่ค่ายวอลโว่ นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า วอลโว่เตรียมนำรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนเข้ามาขายในไทย โดยใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีนำเข้าระหว่างไทยและจีน ที่ปัจจุบันภาษีเป็น 0% โดยคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจากสิทธิประโยชน์ด้านภาษี น่าจะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของวอลโว่แข่งขันในตลาดได้อย่างสบาย