ซัพลายเออร์ห่วง Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance อาจพัฒนายานยนต์ล่าช้า
Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance ประกาศปรับผังความร่วมมือใหม่หลังกรณีการปลดอดีต CEO Mr. Carlos Ghosn มุ่งเน้นการพัฒนายานยนต์ และการวิจัยร่วมกัยระหว่าง 3 ค่ายรถมากยิ่งขึ้น โดย Nissan ได้แสดงความต้องการที่จะมีอำนาจตัดสินใจภายในกลุ่มพันธมิตรมากขึ้นกว่าเดิม ในขณะที่ทางกลุ่มซัพพลายเออร์แสดงความเห็นต่อการปรับผังครั้งนี้ว่า “หวังว่าจะทำงานได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม”
โดยในวันที่ 12 มีนาคม Renault–Nissan–Mitsubishi Alliance ได้ประกาศจัดตั้ง “Alliance Operating Board” ขึ้น และได้แสดงความเห็นต่อหนังสือบันทึกข้อตกลงร่วมกันว่า “เป็นข้อตกลงที่วางอยู่บนฐานความพอใจของทุกฝ่าย”
ที่ผ่านมา การตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ภายใน 3 ค่ายนี้ อำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดนั้นขึ้นอยู่กับ Mr. Carlos Ghosn และในกรณีมีความเห็นต่างกันภายใน “Renault-Nissan B.V.” เกิดขึ้นแล้ว Renault ก็จะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ
Mr. Hiroto Saikawa CEO บริษัท Nissan กล่าวแสดงความเห็นว่า “ภายใน Alliance Operating Board ทั้ง 3 บริษัทจำเป็นต้องเห็นชอบในทางเดียวกันทั้งหมด โดยไม่ได้ตัดสินจากจำนวนเสียงข้างมาก ซึ่งสำหรับ Nissan แล้ว จะทำให้เราสามารถมีจุดยืนที่เท่าเทียมกับอีก 2 ค่ายได้” และกล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่าการปรับผังใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยให้การดำเนินการทำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ก็มีการเปิดเผยว่า “การปรับรูปแบบการตัดสินใจใหม่เช่นนี้ แม้ว่าจะมีผลดีที่ทำให้สามารถทุ่มเททรัพยากรณ์ให้กับโครงการณ์ที่เหมาะสมได้ง่าย แต่ก็ทำให้การตัดสินใจอะไรยุ่งยากขึ้นเช่นกัน”
โดยในวันร่วมลงนาม ทั้ง 3 ค่ายได้เชิญซัพพลายเออร์รายใหญ่ของตนเพื่อชี้แจ้งข้อมูลต่าง ๆ ให้รับทราบ พร้อมกระกาศว่าจะดำเนินการปรับผังองค์กรนี้ภายในปีงบประมาณ 2019 อย่างไรก็ตาม ซัพพลายเออร์รายใหญ่รายหนึ่ง ได้แสดงความเห็นว่า “แม้ว่าการปรับผังในครั้งนี้จะทำให้การพัฒนายานยนต์ของทั้ง 3 ค่ายมีทิศทางเดียวกัน และใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้มากขึ้น แต่ระยะเวลาที่ต้องใช้ในการหาข้อสรุปที่ลงตัว ทำให้น่ากังวลว่าทั้ง 3 ค่ายอาจเกิดความล่าช้าในการพัฒนายานยนต์ยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้”