Machine Learning เสริมประสิทธิภาพโลจิสติกส์

อัปเดตล่าสุด 8 ต.ค. 2561
  • Share :

KATO SANGYO เสริมประสิทธิภาพการบริหารบุคคลในงานโลจิสติกส์ด้วยฟังก์ชัน Machine Learning ของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ลดภาระงานผู้ดูแลศูนย์การจัดส่ง และปรับเปลี่ยนหน้าที่การทำงานของพนักงานให้สอดคล้องกับปริมาณสินค้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีการทดลองใช้นับตั้งแต่ปี 2017 และคาดว่าจะถูกนำไปใช้จริงอย่างน้อยใน 70 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น
 
โดย Artificial Intelligence จะทำหน้าที่ในการแปลงสภาพการทำงานเป็นข้อมูล เรียนรู้ว่าการจัดวางพนักงานแบบใด กับสินค้าแบบไหน ปริมาณเท่าไร จึงจะได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งแต่เดิมเป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบ ซึ่งจากการทดสอบ พบว่าระบบสามารถทำหน้าทีได้เหนือกว่าเป็นอย่างมาก
 
นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้จากการใช้งาน ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นรูปแบบมาตรฐานเพื่อนำไปใช้ในคลังสินค้าแห่งอื่น ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานที่มีอยู่ให้สอดคล้องไปกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน นอกจากนี้ ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการโยกย้ายพนักงานในแต่ละเดือนได้มากถึง 15% เพื่อให้สามารถนำงบประมาณในส่วนนี้ไปใช้ในการพัฒนาคลังสินค้าและด้านอื่น ๆ แทนได้
 
KATO SANGYO เป็นบริษัทในอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งการสต็อกและจัดส่งสินค้าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงฤดู โดยเฉพาะปริมาณสินค้าที่มีการขึ้นลงสูง จึงทดลองนำ Artificial Intelligence มาใช้งานในบริษัทตน และมุ่งพัฒนาให้สามารถทำงานได้แม่นยำขึ้น เพื่อพัฒนาให้ใช้งานจริงในภาคโลจิสติกส์ได้ต่อไป