อิเล็กทรอนิกส์ และ IT ค่ายใหญ่ คาดการณ์อย่างไร ในยุคโควิด-19

อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 2563
  • Share :

จีน ไม่เพียงเป็นหนึ่งในฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และ IT เท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดขนาดใหญ่ และมีความเกี่ยวพันทางด้านซัพพลายเชนเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เอง การระบาดของโรคโควิด-19 จึงทำให้เกิดผลกระทบในอุตสาหกรรมนี้เป็นวงกว้าง แม้แต่ผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง General Electri และ HP เองก็ไม่ต่างกัน

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 General Electric (GE) ประกาศลดกระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ลงจากเดิม 3-5 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดการณ์ว่า จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์รายอื่น ๆ เป็นอย่างมาก รวมถึงธุรกิจรายใหญ่อย่าง Hitachi และ Toshiba อีกด้วย

โดย Toshiba คาดการณ์ว่า ในช่วง 2 เดือนจากนี้ไป ยอดขายของบริษัทจะไม่เกิน 1 แสนล้านเยน อย่างไรก็ตาม Mr. Masayoshi Hirata กรรมการผู้จัดการบริษัท กล่าวแสดงความมั่นใจว่า “ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องปรับอากาศ ลิฟต์ และโครงสร้างพื้นฐานไม่มีทางลดลง อย่างมากก็แค่เลื่อนไปช่วงครึ่งแรกของปีหน้าเท่านั้น”

ในอีกด้านหนึ่ง Apple รายงานว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรก ปี 2020 อาจทำได้ไม่ตามเป้าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ สืบเนื่องจากสินค้าหลักอย่าง iPhone นั้น ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกำลังผลิต และคามต้องการที่ลดลงในประเทศจีน ซึ่งมีซัพพลายเออร์หลายรายที่แสดงความกังวลต่อผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสนี้

Mr. Tai Jeng-wu ประธานบริษัท Sharp รายงานว่า สำหรับบริษัทที่มีรายได้หลักมาจาก Apple แล้ว การหยุดชะงักของโรงงาน และซัพพลายเชนในจีน ทำให้ไม่อาจคาดการณ์อนาคตข้างหน้าได้

Japan Display (JDI) เป็นอีกบริษัทที่มีรายได้กว่า 60.6% มาจาก Apple ได้แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมั่นใจว่ารายได้จะต้องลดลงไม่มากก็น้อย ส่วนผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์รายอื่นอย่าง Murata Manufacturing, TDK, Alps Electric, และอื่น ๆ เองก็คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากจีนเช่นเดียวกัน

ส่วน HP ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ และปริ้นเตอร์กว่าครึ่งในประเทศจีน รายงานว่า ผลกำไรของบริษัทจะลดลงราว 0.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อสินค้า 1 ชิ้น ซึ่ง Canon ในฐานะที่เป็นทั้งผู้ผลิตปริ้นเตอร์และซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนให้แก่ HP เองก็คาดการณ์ว่าจะไม่ต่างกันมากนัก