EEC Road Show จีน ดึงนักลงทุน มณฑลเหอหนาน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เปิดเผยภายในเวทีสัมมนา “การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 13” (The 13th China Henan international & Trade Fair ) ที่เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นเวทีสำคัญเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับนานาชาติ โดยอีอีซี จะได้เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ และเชิญชวนให้นักลงทุนทั้งจากประเทศจีน และทั่วโลก เข้าลงทุนในพื้นที่อีอีซี (ระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี) อย่างเป็นรูปธรรมเพิ่มขึ้น ซึ่งจากภาพรวมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับมณฑลเหอหนานนั้น พบว่ามีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งทั้งในระดับนักลงทุนต่อนักลงทุน รวมทั้งในระดับบริษัทต่อบริษัทด้วยกัน
ทั้งนี้ นักลงทุนจากจีนได้แสดงความสนใจลงทุนในอีอีซี โดยจะมีนักลงทุนจากมณฑลเหอหนานไปลงทุนในอนาคตอันใกล้ ซึ่งขณะนี้แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่อีอีซี เริ่มมีความชัดเจนแล้ว รวมทั้งความพร้อมการลงทุนมหานครการบิน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 30 กิโลเมตร จากอู่ตะเภา โดยจะเป็นความร่วมมือสำคัญสอดรับกับเมืองมหานครการบินของเจิ้งโจว ซึ่งเป็นการเปิดประตูการค้าจากจีนสู่อาเซี่ยน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโครงการ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง “One Belt One Road” หรือเส้นทางสายไหมในศตวรรษที่ 21 ของจีน โดยใช้โครงการอีอีซี ที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นตัวขับเคลื่อนร่วมกัน
“ก่อนหน้านี้ผู้ว่ามณฑลเหอหนานได้เยือนประเทศไทย และได้เข้าพบกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตอกย้ำว่าเหอหนานเป็นเป้าหมายของนักลงทุนไทยมานานกว่า 1 ทศวรรษ ซึ่งเห็นภาพชัดจาก 2 ปีก่อน ที่สายการบินไทยสไมส์ ได้เปิดเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯ - เจิ้งโจว และการจัดงานฯ ครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ยังได้นำนักลงทุนเจ้าของสินค้าที่มีศักยภาพมาร่วมงานด้วย โดยในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ รองนายกรัฐมนตรีสมคิด จะได้เดินทางมาเยือนเหอหนาน เพื่อยกความสัมพันธ์ให้เป็นระดับประเทศ ระหว่างมณฑลเหอ หนานกับประเทศไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” นายคณิศกล่าว
สำหรับการเข้าร่วมงาน ที่มณฑลเหอหนาน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 เม.ย. 2562 อีอีซี ได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการเพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุน โดยเบื้องต้นมี 3 สาขา ที่นักลงทุนได้ให้ความสนใจ อาทิ สาขาการขนส่ง สาขาเทคโนโลยีการบิน สาขายานยนต์อนาคต ซึ่งสัญชาตินักลงทุนที่สนใจ ได้แก่ นักลงทุนจากจีนเป็นส่วนใหญ่ รองลงมาได้แก่ คาเมอรูน สิงคโปร์ และอัลจีเรีย เป็นต้น รวมทั้งภายในงาน ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ เวทีเสวนาและการประชุม กิจกรรมส่งเสริมโครงการลงทุน การจับคู่ทางธุรกิจ การจัดแสดงนิทรรศการ ที่มีบูทมากกว่า 600 บูท จากจำนวน 1,061 บริษัท และมีบูทนิทรรศการจากประเทศไทย จำนวน 54 บูท หรือประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด